ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอชื่อแพม บอนดี อัยการอาวุโส ในตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรมคนใหม่ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนายแมตต์ เกตซ์ ถอนตัวออกจากการพิจารณา หลังเผชิญเรื่องอื้อฉาวทางเพศ
ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอชื่อแพม บอนดี อัยการอาวุโส ในตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรม ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากแมตต์ เกตซ์ ถอนตัวออกจากการพิจารณา หลังเผชิญเรื่องอื้อฉาวทางเพศ โดยบอนดีมีประสบการณ์ยาวนานในด้านการบังคับใช้กฎหมายและเคยดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดของรัฐฟลอริดา
บอนดีเป็นพันธมิตรกับทรัมป์มายาวนาน เธอเคยอยู่ทีมกฎหมายของเขาในระหว่างการพิจารณาคดีถอดถอนประธานาธิบดีในวุฒิสภาครั้งแรก และยังสนับสนุนเขาอย่างเปิดเผยด้วยการปรากฏตัวที่ศาลในระหว่างการพิจารณาคดีเงินปิดปากในนครนิวยอร์ก
ทรัมป์โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า "แพมเป็นอัยการมาเกือบ 20 ปี ซึ่งเธอเข้มงวดกับอาชญากรที่รุนแรงมาก และทำให้ท้องถนนปลอดภัยสำหรับครอบครัวชาวฟลอริดา"
บอนดีมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทรัมป์มาตั้งแต่ช่วงหาเสียงในปี 2016 โดยบอกกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการชุมนุมหาเสียงของทรัมป์เมื่อไม่นานนี้ว่าเธอถือว่าทรัมป์เป็น "เพื่อน" ในปี 2019 เธอเข้าเข้าทำงานในทำเนียบขาว โดยทำหน้าที่เป็นทั้งที่ปรึกษาทางกฎหมายและทนายความฝ่ายจำเลยในระหว่างการพิจารณาถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่งครั้งแรก ซึ่งในระหว่างนั้นเขาก็ได้รับการตัดสินให้พ้นผิด
เธอยังคงเป็นส่วนหนึ่งของทีมกฎหมายของทรัมป์ในปี 2020 เนื่องจากทีมกฎหมายได้กล่าวอ้างเท็จว่าทรัมป์ถูกขโมยชัยชนะในการเลือกตั้งเนื่องจากการทุจริต เธอยังทำหน้าที่ในคณะกรรมการพิจารณายาโอปิออยด์ของทรัมป์ และล่าสุด เธอได้เป็นหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของ America First Policy Institute ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยแนวอนุรักษ์นิยมที่ก่อตั้งโดยอดีตเจ้าหน้าที่ของทรัมป์
...
หากได้รับการยืนยันจากวุฒิสภา บอนดีจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตราียุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งรับผิดชอบเจ้าหน้าที่มากกว่า 115,000 คนของกระทรวงฯและงบประมาณประมาณ 45,000 ล้านดอลลาร์ เธอจะมีบทบาทสำคัญในการพยายามนำคำสัญญาของทรัมป์เพื่อลงโทษศัตรูทางการเมืองของเขาไปปฏิบัติเมื่อเขาเข้ารับตำแหน่ง เธอยังเป็นผู้วิจารณ์คดีอาญาที่ฟ้องทรัมป์อย่างเปิดเผย รวมถึงอัยการพิเศษแจ็ค สมิธ ซึ่งตั้งข้อกล่าวหาทรัมป์ในคดีระดับรัฐบาลกลาง 2 คดี
ทรัมป์กล่าวว่า "แพมจะหันความสนใจของกระทรวงยุติธรรมไปที่จุดประสงค์ในการต่อสู้กับอาชญากรรม และทำให้อเมริกาปลอดภัยอีกครั้ง"
ทรัมป์ได้เสนอแผนการต่างๆ สำหรับกระทรวงยุติธรรม เช่น การยุติ "รัฐบาลที่ใช้อาวุธ" การปกป้องพรมแดนสหรัฐฯ การยุบองค์กรอาชญากรรม และการฟื้นฟูศรัทธาและความเชื่อมั่นที่บอบช้ำอย่างหนักของชาวอเมริกันที่มีต่อกระทรวงฯ
ทั้งนี้ ข่าวการเสนอชื่อบอนดี เกิดขึ้นประมาณ 6 ชั่วโมง หลังจากที่เกตซ์ประกาศว่าเขาจะถอนตัวจากการถูกเสนอชื่อในตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรม หลังจากมีการถกเถียงกันมาหลายวันว่าจะเปิดเผยรายงานของรัฐสภาเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องประพฤติมิชอบทางเพศต่อเขาหรือไม่
เกตซ์กล่าวในการประกาศถอนตัวว่าความขัดแย้งเกี่ยวกับการเสนอชื่อเขา "กลายเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ" ต่อการทำงานของรัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่โดยไม่เป็นธรรม รายงานดังกล่าวยังรวมถึงผลการสอบสวนจากข้อกล่าวหาเรื่องประพฤติมิชอบทางเพศและการใช้ยาเสพติดผิดกฎหมาย เกตซ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างรุนแรง แต่เขาหวังว่าจะหลีกเลี่ยงการทะเลาะวิวาทที่ยืดเยื้อโดยไม่จำเป็นในวอชิงตัน ด้วยการถอนตัว
ต่อมาในวันพฤหัสบดี เกตซ์ได้แสดงความยินดีกับบอนดี โดยเรียกเธอว่า "ผู้ได้รับเลือกจากประธานาธิบดีทรัมป์" อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าเกตซ์ ซึ่งลาออกจากที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรไม่นานหลังจากทรัมป์เลือกให้เขาเป็นรัฐมนตรี จะพยายามรักษาที่นั่งของเขาไว้หรือไม่.
ที่มา BBC
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign