คนรักนกใจฟู เมื่อสหรัฐฯกลับมาเปิดให้บริการรับชม "รังนกอินทรี" เตรียมดูนกกลับมาสร้างครอบครัวกันอีกครั้ง หลังจากพายุพัดรังนกตกจากต้นไม้ ทำเอาลูกนกตาย เมื่อปีที่แล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวานนี้ 21 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรรมชาติของรัฐมินนิโซตา สหรัฐฯ ได้ปีนขึ้นไปติดตั้งกล้อง "อีเกิ้ลแคม" (EagleCam) หรือกล้องเว็บแคมส่องนกอินทรี หลังจากเจ้าหน้าที่พบเห็นนกคู่หนึ่งมาช่วยกันทำรังบนต้นไม้ที่บริเวณห่างออกไปจากรังเก่าประมาณครึ่งไมล์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยหลังติดตั้งเสร็จกล้องได้เริ่มจับภาพนกอินทรีตัวใหม่ ถ่ายทอดสดให้คนทั่วโลกรับชมได้อีกครั้งแล้วเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ ผู้ชื่นชอบนกอินทรีทั่วโลกต่างที่รู้สึกเสียใจเมื่อมาดูกล้องถ่ายทอดสดแล้วเห็นรังนกอินทรีที่ติดตามดูมานานหลายเดือนจนกระทั่งแม่นกฟักไข่ออกมาเป็นลูกนกสองตัว ได้ถูกพายุหิมะพัดกิ่งไม้หักรังนกจากต้นไม้ เมื่อวันที่ 2 เมษายน ปีที่แล้ว

โดยรังเก่าเป็นบ้านของนกคู่หนึ่งที่ผู้ชมตั้งชื่อเล่นอย่างไม่เป็นทางการว่า "แนนซี่ และ โบ" จนกระทั่งรังพังทลายลงระหว่างพายุหิมะที่หนักหน่วง ทำให้นกตัวเมียบินออกไปเมื่อกิ่งไม้หักพังทลายลง ในเวลาต่อมาพบลูกนกตาย 2 ตัว

โลรี นอแมนน์ โฆษกของโครงการ Nongame Wildlife กรมทรัพยากรธรรมชาติของรัฐมินนิโซตา เปิดเผยว่า กล้อง EagleCam มีผู้ชมใน 50 รัฐ ของสหรัฐฯ และอีกประมาณ 160 ประเทศทั่วโลก โดยมีการเปิดรับชมตามบ้าน ห้องเรียน และบ้านพักคนชรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากผู้ชมที่อยู่บ้านมักจะออนไลน์เพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติ ในขณะที่มินนิโซตาเป็นรัฐที่มีประชากรนกอินทรีมากที่สุดใน 48 รัฐทางตอนล่าง โดยมีนกอินทรีสร้างรังแม้แต่ในเขตเมือง

...

อย่างไรก็ตาม เมื่อคนเข้าไปดู EagleCam จะพบว่าขณะนี้ยังไม่มีกิจกรรมมากนักที่รังนก แต่สิ่งนั้นจะเปลี่ยนไปในไม่ช้า โดยคาดว่าตัวเมียจะวางไข่ 2-3 ฟองในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และจะใช้เวลาฟักไข่ประมาณ 35 วัน โดยทั่วไปแล้ว พ่อแม่จะดูแลลูกนกโดยนำปลาตายมาให้กินอยู่เสมอ ในขณะที่ลูกนกก็จะค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆ.

ภาพ Minnesota Department of Natural Resources