นับแต่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นายก รัฐมนตรีคนที่ 13 ของไทย และนายโจว เอินไหล นายกรัฐมนตรีจีน ได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์ ทางการทูตระหว่างไทยกับจีน ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2518 เปิดฉากความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ และในโอกาสที่ปี 2568 ที่ใกล้ถึงนี้จะเป็นวาระครบรอบ 50 ปี กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย จึงถือโอกาสนี้จัดงานเปิดตัว “ตราสัญลักษณ์ทางการ” สำหรับวาระสำคัญนี้ ที่ไอคอนสยาม เมื่อ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา
ตราสัญ ลักษณ์ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย- จีน เป็นการออกแบบร่วมโดยกระทรวงการต่างประเทศทั้ง 2 ฝ่าย ใช้ “พญานาค” และ “มังกร” สัตว์มงคลในตำนานของทั้ง 2 ชาติมาขดคล้องกันเป็นเลข 50 ขณะที่ต่างหันหน้าเข้าหากันและมองตรงไปยังดวงแก้วสีเหลืองทอง สื่อถึงการมุ่งสู่จุดหมายเดียวกันในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น ตามคำขวัญ“จีน–ไทยสานใจกัน ร่วมสร้างฝันประชาคม”
ในงานนี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า นับแต่วันที่ 1 ก.ค.2518 ไทย-จีนมีความช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตลอด ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน ต่างฝ่ายต่างสนับสนุนให้เกิดความเจริญก้าวหน้าระหว่างกัน และมีความร่วมมือบนพื้นฐานของความเข้าใจ การเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อผลประโยชน์ของทั้ง 2 ชาติ ความสัมพันธ์แนบแน่นเสมือน “ผู้ใกล้ชิด” หรือ “ญาติสนิท” สมดั่งคำกล่าว “จีนไทยไม่ใช่อื่นไกล เป็นพี่น้องกัน”
เช่นเดียวกับ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัคร ราชทูตจีนประจำประเทศไทย นอกจากจะย้ำถึงมิตรไมตรีที่มีต่อกันแล้ว ยังเน้นถึงความมุ่งมั่นพัฒนาอย่างสันติ จีนจะสานต่อมิตรภาพให้ยาวนาน พร้อมให้ความสนับสนุนการพัฒนา ยืนยันจะ เป็นเพื่อนมิตรที่เชื่อถือและพึ่งพาได้ เพื่ออนาคตที่สดใสเต็มไปด้วยความเจริญรุ่งเรือง
...
ในปีทองแห่งมิตรภาพไทย-จีน มีการจัดเตรียมกิจกรรมมากมาย เช่น การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง มาประดิษฐานในไทย ตั้งแต่ 4 ธ.ค.เป็นเวลา 73 วัน ขณะที่นายอู๋ จื้ออู่ อัครราชทูตของสถานทูตจีนประจำประเทศไทยเสริมว่าทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มทำงานจัดส่งแพนด้ามายังประเทศไทยอีกครั้ง.
คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม