พายุนอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ และทางตะวันตกของแคนาดา กำลังทำให้เกิดลมกระโชกแรง, น้ำท่วม และ หิมะตก กระทบประชาชนกว่า 7 ล้านที่อาศัยอยู่ในรัฐติดมหาสมุทรแปซิฟิก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พายุไซโคลนนอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ และทางตะวันตกของแคนาดา ทำให้เกิดฝนตกหนัก ลมแรง และหิมะตกในรัฐตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกของทั้ง 2 ประเทศ และทำให้เกิดไฟดับเป็นวงกว้าง ต้นไม้หักโค่นใส่อาคารหรือกีดขวางถนน

พายุลูกนี้รุนแรงขึ้นจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “บอมบ์ ไซโคลน” (bomb cyclone) เกิดจากการที่พายุ มีความกดอากาศลดลงอย่างรวดเร็วมากกว่า 24 มิลลิบาร์ภายในเวลา 24 ชั่วโมง ทำให้อากาศที่อยู่รอบด้านไหลเข้าไปแทนที่ในจุดศูนย์กลาง เกิดเป็นลมพายุที่มีความเร็วและความแรงเทียบเท่าพายุเฮอร์ริเคน

อิทธิพลของมันทำให้มีผู้หญิงเสียชีวิต 2 ศพ หลังจากต้นไม้หักโค่นทับบ้านของพวกเธอ โดยรายหนึ่งอยู่ที่เมืองลินวู้ด ส่วนอีกรายอยู่ที่เมืองเคิร์คแลนด์ ใกล้ซีแอตเทิล ในรัฐวอชิงตัน นอกจากนั้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 รายที่เมืองเมเปิล วัลเลย์ ทางใต้ของซีแอตเทิลด้วย

ในช่วงเช้าวันพุธ เกิดไฟดับกระทบบ้านเรือนกับธุรกิจมากกว่า 700,000 หลัง ในรัฐวอชิงตัน ก่อนที่จำนวนจะลดลงเหลือประมาณ 500,000 หลังในเวลาต่อมา ขณะที่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย จนถึงตอนนี้ยังมีบ้านได้รับผลกระทบจากไฟกับอีกประมาณ 15,000 หลัง

โรงเรียนทั่วรัฐวอชิงตันต้องปิดทำการในวันพุธ ขณะที่ศูนย์พยากรณ์อากาศสหรัฐฯ (WPC) ระบุว่า มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดฝนตกหนัก จนก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในภาคเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยบริเวณอ่าวซานฟรานซิสโก คาดว่าจะได้รับน้ำฝนสูงถึง 20 ซม.

อิทธิพลของพายุยังแผ่ไปจนถึงแคนาดา ทำให้เกิดลมกระโชกแรง สูงสุด 160 กม./ชม. ที่รัฐบริติชโคลัมเบีย เกิดไฟดับกระทบบ้านเรือน 140,000 หลัง

...

นายสตาฟ ดานาออส ผู้สื่อข่าวสภาพอากาศของ บีบีซี ระบุว่า ความเสียหายจากลมแรงจะค่อยๆ ลดลงตลอดวันพุธ แต่สภาพอากาศเช่นนี้จะคงอยู่ต่อไปตามแนวชายฝั่งแปซิฟิก ตั้งแต่ซานฟรานซิสโก ยาวขึ้นไปจนถึงเกาะแวนคูเวอร์ และคาดว่าจะมีฝนตกหนักตลอดวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ด้วย

นอกจาก ลม, ฝน และหิมะแล้ว พายุลูกนี้อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม และหิมะตกหนักบนภูเขาสูง โดยพายุเริ่มทำให้เกิดพายุหิมะบริเวณเทือกเขา “แคสเคด” (Cascade) กับ “นอร์ท ร็อกกี้” (North Rockies) แล้ว

เจ้าหน้าที่คาดว่า หิมะบนภูเขานี้จะละลายในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งเมื่อประกอบกับฝนตกหนัก จึงอาจทำให้เกิดน้ำท่วมในภาคเหนือของแคลิฟอร์เนียไปจนถึงรัฐโอเรกอน และมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดดินถล่มลงจาภูเขา

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc