โจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนป่าฝนแอมะซอนขณะดำรงตำแหน่งคนแรก ระหว่างการเดินทางไปร่วมประชุม G20 ที่นครริโอเดอจาเนโร

โจ ไบเดน กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่เดินทางเยือนป่าฝนแอมะซอน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (17 พ.ย.) โดยชี้ให้เห็นถึงอันตรายของภาวะโลกร้อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มักจะมองข้าม โดยเขาให้คำมั่นว่าจะยกเลิกมาตรการต่างๆ เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ไบเดนบินจากกรุงลิมา ประเทศเปรู ไปยังเมืองมาเนาส์ ประเทศบราซิล ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตป่าแอมะซอน เพื่อพบกับผู้นำท้องถิ่นที่ทำงานเพื่ออนุรักษ์ป่าฝน หลังจากนั้น เขาได้มุ่งหน้าไปยังนครริโอเดอจาเนโร เพื่อร่วมประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ หรือ G20 ซึ่งจะหารือเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ เช่น ความยากจน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ขณะอยู่ในป่าแอมะซอน ไบเดนเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ประจำตำแหน่งประธานาธิบดี เพื่อชมป่าฝนและจุดบรรจบของแม่น้ำแอมะซอนและแม่น้ำริโอเนโกรที่เมืองมาเนาส์ ซึ่งเป็นจุดที่ระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

ไบเดนเดินทางร่วมกับนายคาร์ลอส โนเบร นักวิทยาศาสตร์ชาวบราซิล ผู้ได้รับรางวัลโนเบล ซึ่งเตือนว่าอาจไม่สามารถรักษาป่าแอมะซอนไว้ได้อีกต่อไป เนื่องจากการตัดไม้ทำลายป่าได้เปลี่ยนรูปแบบสภาพอากาศที่หล่อเลี้ยงสภาพอากาศแบบป่าดิบชื้น

ไบเดนยังได้ไปที่พิพิธภัณฑ์แอมะซอนในเมืองมาเนาส์ ซึ่งเขาได้พบกับผู้นำชนเผ่าพื้นเมือง โดยไบเดนกล่าวกับนักข่าวว่า ต้นไม้ในป่าทั่วโลกปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศ แต่ทุกนาทีโลกก็กำลังตัดต้นไม้ลงเทียบเท่ากับสนามฟุตบอล 10 สนาม 

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า การอนุรักษ์ป่าแอมะซอนมีความสำคัญต่อการควบคุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากต้นไม้ในป่าดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนในปริมาณมหาศาล ด้านประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล ให้คำมั่นว่าจะยุติการตัดไม้ทำลายป่าในป่าฝนของประเทศภายในปี 2030 และเรียกร้องให้ประเทศร่ำรวยมีส่วนสนับสนุนผ่านกองทุนแอมะซอนที่ดำเนินการโดยธนาคารพัฒนาแห่งรัฐของบราซิล

...

ในการแวะพักสี่ชั่วโมงที่เมืองมาเนาส์ ไบเดนได้ประกาศการบริจาคเงินเพิ่มเติม 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับกองทุนแอมะซอน ซึ่งทำให้สหรัฐฯ มียอดบริจาคแล้ว 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อปีที่แล้ว ไบเดนกล่าวว่าเขาจะขออนุมัติเงิน 500 ล้านเหรียญสหรัฐจากรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนกองทุนแอมะซอน 

ทำเนียบขาวกล่าวว่าเงินสนับสนุนก้อนใหม่นี้ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลไบเดนที่จะขยายการเงินด้านสภาพอากาศของสหรัฐฯ ขึ้น 6 เท่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเป็น 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

อย่างไรก็ตาม แนวคิดดังกล่าวอาจไม่ได้รับการสนับสนุนจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ที่จะเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้า ทรัมป์กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเป็นเรื่องหลอกลวง และวางแผนที่จะยกเลิกกฎหมายด้านสภาพอากาศที่สำคัญของไบเดนส่วนใหญ่ เพื่อนำเงินไปใช้ในช่วงการขยายระยะเวลาการลดหย่อนภาษีในวาระแรกของเขา

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในระดับสูงสุด และยกเลิกกฎเกณฑ์ที่นายไบเดนกำหนดเพื่อเลิกใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินบนท้องถนนของสหรัฐฯ.

ที่มา CNA

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign