โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และแนะนำให้เขายุติการยกระดับสงครามในยูเครน ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีแผนที่จะเรียกร้องให้ทรัมป์ช่วยเหลือยูเครนต่อไป
แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย และแนะนำให้เขายุติการยกระดับสงครามในยูเครน ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีแผนที่จะเรียกร้องให้ทรัมป์ให้การช่วยเหลือยูเครนต่อไป
แหล่งข่าวกล่าวว่าทรัมป์และปูตินได้พูดคุยกันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทรัมป์ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนเมื่อวันพุธ ทรัมป์ได้กล่าวถึงขนาดของการสนับสนุนทางทหารและทางการเงินของสหรัฐฯ ต่อยูเครน พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะยุติสงครามโดยเร็ว โดยไม่ได้บอกว่าจะยุติอย่างไร
กระทรวงต่างประเทศของยูเครนกล่าวว่าไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าเกี่ยวกับการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์และปูติน และในเวลาต่อมาก็ไม่สามารถยืนยันข่าวดังกล่าวได้
สตีเวน เฉียง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทรัมป์ กล่าวเมื่อถูกถามถึงการสนทนาทางโทรศัพท์ดังกล่าว ซึ่งรายงานครั้งแรกโดยหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ว่า "เราไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสนทนาส่วนตัวระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์กับผู้นำโลกคนอื่นๆ"
ทั้งนี้ ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม หลังจากเอาชนะรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ด้านทำเนียบขาวกล่าวว่า นายไบเดนได้เชิญทรัมป์มาที่ห้องทำงานรูปไข่ในวันพุธนี้ (13 พ.ย.)
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ข้อความหลักของไบเดนคือการให้คำมั่นที่จะดำเนินการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ และเขาจะพูดคุยกับทรัมป์เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลางด้วย
...
ซัลลิแวนกล่าวในรายการ "Face the Nation" ของซีบีเอส นิวส์ว่า "ประธานาธิบดีไบเดนจะมีเวลาในอีก 70 วันข้างหน้า เพื่อชี้แจงต่อรัฐสภาและฝ่ายบริหารชุดใหม่ว่าสหรัฐฯ ไม่ควรการสนับสนุนจากยูเครน เพราะการถอนตัวจากยูเครนจะส่งผลให้เกิดความไม่มั่นคงในยุโรปมากขึ้น"
ความเห็นของซัลลิแวนมีขึ้นในขณะที่ยูเครนโจมตีกรุงมอสโกเมื่อวันอาทิตย์ (10 พ.ย.) ด้วยโดรนอย่างน้อย 34 ลำ ซึ่งถือเป็นการโจมตีด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงของรัสเซียนับตั้งแต่เริ่มสงครามเมื่อปี 2022
เมื่อถูกถามว่าไบเดนจะขอให้รัฐสภาผ่านกฎหมายเพื่ออนุมัติเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับยูเครนหรือไม่ นายซัลลิแวนกล่าวว่า เขาไม่ได้ต้องการเสนอข้อเสนอทางกฎหมายที่เฉพาะเจาะจง ประธานาธิบดีไบเดนจะชี้แจงว่าเราจำเป็นต้องมีทรัพยากรอย่างต่อเนื่องสำหรับยูเครนหลังจากสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่ง
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ให้ความช่วยเหลือด้านการทหารและเศรษฐกิจมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์แก่ยูเครนตั้งแต่ถูกรัสเซียรุกรานในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ซึ่งทรัมป์แสดงการวิพากษ์วิจารณ์และคัดค้านมาโดยตลอด โดยทรัมป์ยืนกรานเมื่อปีที่แล้วว่า ปูตินจะไม่รุกรานยูเครนเลยหากเขาเป็นประธานาธิบดีในเวลานั้น เขากล่าวว่ายูเครนอาจต้องยกดินแดนให้เพื่อบรรลุข้อตกลงสันติภาพ ซึ่งชาวยูเครนปฏิเสธและไบเดนไม่เคยเสนอแนะ เซเลนสกีกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาไม่ทราบรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับแผนการของทรัมป์ที่จะยุติสงครามยูเครนอย่างรวดเร็ว และเขาเชื่อว่าการยุติสงครามอย่างรวดเร็วจะทำให้ยูเครนต้องผ่อนปรนอย่างมาก
ตามข้อมูลของสำนักงานตรวจสอบความรับผิดชอบของรัฐบาล รัฐสภาได้จัดสรรเงินกว่า 174,000 ล้านดอลลาร์ให้แก่ยูเครนภายใต้การนำของไบเดน ความช่วยเหลือดังกล่าวมีแนวโน้มลดลงอย่างมากภายใต้การนำของทรัมป์ โดยพรรครีพับลิกันเตรียมที่จะควบคุมวุฒิสภาสหรัฐฯ ด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 52 ที่นั่ง
ส่วนการควบคุมสภาผู้แทนราษฎรชุดต่อไปยังไม่ชัดเจน เนื่องจากคะแนนเสียงบางส่วนยังอยู่ระหว่างการนับอยู่ โดยพรรครีพับลิกันชนะไปแล้ว 213 ที่นั่ง จาก 218 ที่นั่งที่จำเป็นสำหรับเสียงข้างมาก หากพรรครีพับลิกันชนะทั้งสองสภา จะทำให้วาระส่วนใหญ่ของทรัมป์ผ่านสภาคองเกรสได้ง่ายดาย
สงครามในยูเครนซึ่งดำเนินมา 2 ปีครึ่ง กำลังเข้าช่วงสำคัญที่หลายฝ่ายเชื่อว่าอาจเป็นปฏิบัติการครั้งสุดท้าย หลังจากกองกำลังของรัสเซียเคลื่อนพลอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นสงคราม ความพยายามครั้งใหม่เพื่อยุติสงครามอาจเกี่ยวข้องกับการเจรจาสันติภาพ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นสงคราม
ด้านกองกำลังของรัสเซียยึดครองพื้นที่ประมาณ 1 ใน 5 ของยูเครน รัสเซียกล่าวว่าสงครามจะยุติไม่ได้จนกว่าจะยูเครนจะยอมรับการผนวกดินแดน ขณะที่ยูเครนเรียกร้องดินแดนทั้งหมดคืน ซึ่งเป็นจุดยืนที่ได้รับการสนับสนุนเป็นส่วนใหญ่จากพันธมิตรตะวันตก.
ที่มา Reuters
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign