รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ “คามาลา แฮร์ริส” จากพรรคเดโมแครต ที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน ในศึกเลือกตั้งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2024 แสดงสปิริตแถลงยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ยังสู้ไม่ถอยเพื่อเสรีภาพ โอกาส ความยุติธรรมและเกียรติภูมิของชาวอเมริกันทุกคน พร้อมขอเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติและให้ผู้สนับสนุนพรรค เดโมแครตยอมรับชัยชนะของนายทรัมป์ ด้านโฆษก ของนายทรัมป์ยกย่องแฮร์ริสเข้มแข็ง มีความเป็น มืออาชีพ และมีความมุ่งมั่น นายกฯอิ๊งค์ มอง “ทรัมป์” ได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดี เป็นผลดีต่อการส่งออกของไทย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ถึงบรรยากาศหลังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่มีความชัดเจนว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน เป็นฝ่ายคว้าชัยในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ เตรียมนั่งเก้าอี้ผู้นำแดนอินทรีสมัยที่ 2 หลังการนับคะแนนมีทิศทางว่าสามารถครองเสียงคณะผู้เลือกตั้งได้ทั้งหมด 312 เสียงจาก 538 เสียงและกวาดคะแนนในรัฐสวิงสเตท สมรภูมิที่ชี้ชะตาว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะไปครบ 7 รัฐ คือ เพนซิลเวเนีย มิชิแกน วิสคอนซิน นอร์ทแคโรไลนา จอร์เจีย อริโซนาและเนวาดา

ขณะที่นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต หลังพ่ายแพ้ในศึกชิงชัยเก้าอี้ประธานาธิบดี ได้เดินทางกลับมามหาวิทยาลัยโฮเวิร์ด สถานที่จัดงานเลี้ยงนับคะแนนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ภายหลังได้ยกเลิกกำหนดการร่วมงานในคืนลุ้นการนับผลคะแนนเพราะมีแนวโน้มว่ากำลังจะพ่ายศึกเลือกตั้ง 2024 บรรยากาศในมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยความเศร้า มีกลุ่มผู้สนับสนุนมารวมตัวน้อยกว่าช่วงลุ้นคะแนน นางแฮร์ริสขึ้นเวทีกล่าวยอมรับความพ่ายแพ้และขอให้ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต ยอมรับชัยชนะของนายทรัมป์ โดยระบุว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ หากเราไม่ยอมแพ้และยังคงสู้ต่อไป แสงแห่งคำมั่นสัญญาของอเมริกาจะยังคงส่องสว่างอยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังกล่าวขอบคุณผู้สนับสนุน ครอบครัวและนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เชื่อมั่นและให้การสนับสนุนมาโดยตลอด ทั้งขอบคุณนายทิม วอลซ์ คู่หูร่วมชิงชัยการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน

...

นางแฮร์ริสระบุต่อไปว่า รู้ว่าหลายคนคงมีความรู้สึกที่หลากหลายและเข้าใจทุกคน แต่เราต้องเคารพผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ สิ่งสำคัญของหลักการประชาธิปไตยของสหรัฐฯ คือเราต้องยอมรับผลลัพธ์เมื่อเราพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง พร้อมเผยด้วยว่า ได้พูดคุยแสดงความยินดีกับนายทรัมป์ทางโทรศัพท์แล้วและจะให้ความช่วยเหลือแก่นายทรัมป์กับทีมงานในการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติ ส่งผลให้ผู้สนับสนุนส่งเสียงโห่ร้องอย่างต่อเนื่องนานหลายนาที ด้วยความไม่พอใจ นางแฮร์ริสยังย้ำว่า แม้ตัวเองจะยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง แต่ก็ยังสู้ไม่ถอยเพื่อเสรีภาพ โอกาส ความยุติธรรมและเกียรติภูมิของประชาชนทุกคน ก่อนที่นางแฮร์ริสจะทิ้งท้ายว่า รู้ว่าหลายๆคนคงรู้สึกว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคมืด แต่หวังว่าความพ่ายแพ้ของเราจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของทุกคน

ขณะที่สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานการเปิดเผยของผู้ช่วยนางแฮร์ริส ถึงรายละเอียดการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างนางแฮร์ริสกับนายทรัมป์ว่า นางแฮร์ริสเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติ และการเป็นประธา นาธิบดีของประชาชนชาวอเมริกันทุกคน ส่วนโฆษกของนายทรัมป์ระบุว่าทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องต้องกันในการให้ความสำคัญกับการรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว เมื่อเห็นการหาเสียงของนางแฮร์ริสแล้วก็ยอมรับว่ารองประธานาธิบดีแฮร์ริสมีความเข้มแข็ง มีความเป็นมืออาชีพและมีความมุ่งมั่น ส่วนสำนักข่าวเอพีของสหรัฐฯ รายงานด้วยว่านายไบเดนได้แสดงความยินดีกับนายทรัมป์ผ่านทางโทรศัพท์ รวมถึงเชิญมาหารือร่วมกันที่ห้องทำงานรูปไข่เพื่อเตรียมความพร้อมการขึ้นเป็นผู้นำ

ส่วนความเคลื่อนไหวของไทย วันเดียวกัน ที่นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาว่า ขอแสดงความยินดีกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ เพราะไม่ใช่แค่คนสหรัฐฯที่ตื่นแต้น แต่คนไทยก็ตื่นเต้นตั้งแต่การติดตามโผเลือกตั้ง กระทั่งถึงวันเลือกตั้งจริง ขอแสดงความยินดีกับว่าที่ประธานาธิบดีอีกครั้ง การที่นายทรัมป์ได้รับเลือกตั้ง คาดว่าจะช่วยเรื่องการส่งออกของไทยได้ดียิ่งขึ้น เพราะท่านเน้นเรื่องเศรษฐกิจอย่างมาก เราก็ค้าขายกับสหรัฐฯ มากอยู่แล้ว ฉะนั้นน่าจะเป็นเรื่องดีและเราก็สร้างสัมพันธ์อันดีไว้ เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศไทยด้วย เมื่อถามว่าซอฟต์พาวเวอร์ของไทยจะไปสหรัฐอเมริกาได้ง่ายขึ้นหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เชื่อว่าจะใช่อย่างนั้น แต่ไม่อยากรีบพูดไปก่อน เพราะเพิ่งผ่านการเลือกตั้งมาเพียง 1 วัน อย่างไรก็ตาม เรื่องซอฟต์พาวเวอร์ภาพยนตร์ ที่คิดว่าสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญเรื่องนี้ ทั้งโปรดักชัน ผู้กำกับ คนเขียนบท หวังว่าเราจะได้เรียนรู้จากเขาและจะสามารถนำภาพยนตร์ของเราไปขายในเวทีของเขาบ้าง ในเวทีที่สามารถมีคนในทุกมุมโลกมองเห็นมากขึ้น ยืนยันว่าจะผลักดันต่อแน่นอนในฐานะนายกฯ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของไทย

ขณะเดียวกัน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์ นิวส์ของสหรัฐฯ ระบุว่า ไม่ต้องการให้สมาชิกในครอบครัวเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานในรัฐบาลอีก เนื่องจากครอบครัวของตัวเองได้รับความเจ็บปวดมากพอแล้ว หลังนางอิวานกา ทรัมป์ ลูกสาวคนโตและลูกเขย นายจาเร็ด คุชเนอร์ เคยเป็นที่ปรึกษาประธานาธิบดีตอนที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯสมัยแรก ก่อนที่ในปี 2565 นางอิวานกา ประกาศลดบทบาทด้านการเมืองและให้ความสำคัญกับครอบครัวมากขึ้น แม้ว่านายทรัมป์เคยเผยเมื่อเดือน ต.ค. ว่า นายบาร์รอน ทรัมป์ ลูกชายวัย 18 ปี ยังมีบทบาทสำคัญในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเช่นกัน

สำหรับประเด็นคดีความต่างๆของนายทรัมป์ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นของสหรัฐฯรายงานอ้างเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯว่า นายแจ็ก สมิธ อัยการสหรัฐฯ กำลังหารือกับกระทรวงยุติธรรมเพื่อพิจารณาหาแนวทางปิดคดีอาญา 2 คดีของนายทรัมป์ที่ตัวเองเป็นผู้รับผิดชอบ ก่อนทำพิธีสาบานตนเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือน ม.ค.ปีหน้า ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ของอังกฤษ รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่า เหตุที่ต้องทยอยปิดคดีของนายทรัมป์ เนื่องจากสหรัฐฯมีนโยบายไม่ให้ฟ้องร้องดำเนินคดีต่อประธานาธิบดีขณะดำรงตำแหน่ง ส่วนความผิดเกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินปิดปากสัมพันธ์สวาทกับดาราหนังผู้ใหญ่ สตอร์มี แดเนียลส์ รวม 34 กระทงที่มีโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี ศาลมีกำหนดพิจารณาโทษในวันที่ 26 พ.ย. แต่คาดว่าอาจมีการเลื่อนกำหนดการดังกล่าวออกไป

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่