ชัดเจนแล้วว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งได้เป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 47 สมาชิกวุฒิสภาเกินครึ่งก็เป็นของพรรครีพับลิกัน แม้แต่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันก็มีที่นั่งมากกว่าพรรคเด็มโมแครต
นอกจากทรัมป์แล้ว ในอดีตก็มีโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 22 เมื่อหมดวาระการเป็นประธานาธิบดีสมัยแรก (1885-1889) แล้ว คลีฟแลนด์ก็แพ้เบนจามิน แฮร์ริสัน
คลีฟแลนด์กลับมาชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 24 ดำรงตำแหน่งระหว่าง ค.ศ.1893–1897 คลีฟแลนด์เป็นประธานาธิบดีคนแรกของเด็มโมแครตที่ได้รับเลือกตั้งนับตั้งแต่สงครามกลางเมืองอเมริกันเป็นต้นมา
คลีฟแลนด์กับทรัมป์มีหลายอย่างคล้ายกัน คลีฟแลนด์สร้างศัตรูไว้บานเบอะเยอะแยะในระหว่างดำรงตำแหน่ง แต่กลับได้รับการยกย่องจากนักประวัติศาสตร์ว่าเป็นผู้นำที่มีคุณสมบัติพิเศษที่หาได้ยากในยุค Gilded Age ภาษาไทยน่าจะแปลว่ายุคทองชุบคลีฟแลนด์มีคุณสมบัติที่ซื่อสัตย์สุจริต กล้าหาญ ขึงขัง จริงจัง และยึดมั่นในหลักการ
ทรัมป์กับคลีฟแลนด์ต่างกันตรงที่ทรัมป์มาจากครอบครัวร่ำรวย แต่คลีฟแลนด์มาจากครอบครัวยากจนข้นแค้น อายุเพียง 16 ปีพ่อก็ตาย ต้องทำงานเป็นครูในโรงเรียนสอนคนตาบอด และเริ่มเข้าสู่การเมืองด้วยการเป็นอาสาสมัครรณรงค์หาเสียงให้กับพรรคเด็มโมแครต แล้วก็ไต่เต้าจนเป็นผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก จนกระทั่งได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี
คนอเมริกันจำนวนหนึ่งชอบคลีฟแลนด์ในเรื่องปาก แกค้านทุกเรื่องที่ไม่เห็นด้วย ต่อสู้กับนักการเมืองที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงและผู้มีอิทธิพล คลีฟแลนด์พูดตรงไปตรงมาว่าไม่ควรให้สวัสดิการแก่ประชาชน โดยบอกว่าคนอเมริกันต้องมีการปกครองที่เน้นการประหยัด โปร่งใส ยุติธรรม และไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
...
ในยุคของคลีฟแลนด์ แกไม่ให้อภิสิทธิ์แก่นายทุนหรือนักธุรกิจใหญ่ๆ ทุกอย่างเป็นระบบคุณธรรม ไม่ยอมให้มีการฝากเข้าทำงาน ใครจะเป็นข้าราชการต้องสอบคัดเลือกอย่างโปร่งใสตามรัฐบัญญัติข้าราชการพลเรือน ค.ศ.1883 ไม่ยอมให้ข้าราชการประพฤติมิชอบและใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ความโปร่งใสของคลีฟแลนด์ทำให้รัฐเรียกที่ดินกลับคืนมาเป็นของรัฐได้มากถึง 202.5 ล้านไร่ เมื่อมีการสอบสวนได้ว่าบรรษัทรถไฟได้รับที่ดินจากรัฐไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
สมัยนั้นในสหรัฐฯมีการฉ้อฉลและปลอมแปลงบัญชีเรื่องเงินบำนาญของทหารผ่านศึกที่พิการในสงครามกลางเมือง ประธานาธิบดีคนอื่นไม่กล้าแตะต้องการปลอมแปลงบัญชีขององค์การทหารผ่านศึก แต่คลีฟแลนด์สั่งให้ยกเลิกการจ่ายเงินบำนาญ เรื่องนี้นี่ละครับ ทำให้ทหารผ่านศึกไม่ยอม เป็นผลทำให้คลีฟแลนด์แพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่สอง
การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่สองของคลีฟแลนด์ใน ค.ศ.1892 มีนโยบายของสองพรรคการเมืองเหมือนกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯใน ค.ศ.2024 ที่ห้ำหั่นกันเรื่องภาษี ประชาชนเห็นว่านโยบายของคลีฟแลนด์ไม่เน้นความฟุ่มเฟือย มุ่งประสิทธิภาพของรัฐบาลเป็นสำคัญ นโยบายภาษีทำให้ประชาชนสนับสนุนคลีฟแลนด์และได้รับคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง 277 คะแนน ในขณะที่คู่แข่งได้เพียง 145 คะแนน
ย้อนกลับมาที่ไบเดน ระหว่างเป็นประธานาธิบดี ไบเดน ทำเฟอะฟะอยู่หลายเรื่อง อยู่ดีๆก็ไปสนับสนุนเซเลนสกี ทำให้เกิดสงครามรัสเซีย–อูเครน ผลของสงครามสร้างความปั่นป่วนรวนเรให้กับเศรษฐกิจของสหรัฐฯและของโลก
แทนที่จะนำภาษีของประชาชนคนอเมริกันมาใช้ในการบริหารประเทศเพื่อทำให้สหรัฐฯยิ่งใหญ่ ไบเดนกลับนำไปใช้กับสงครามตัวแทนที่ถึงแม้จะชนะก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับสหรัฐฯ แถมยังทำให้จีนและรัสเซียจับมือกันอย่างแข็งแรงขึ้น เพื่อสู้กับนโยบายของสหรัฐฯและมีหลายประเทศถอยห่างจากสหรัฐฯ เข้าไปอยู่กับกลุ่มใหม่อย่าง บริกส์ ทำให้สหรัฐฯมีพันธมิตรน้อยลง
ตอนที่ทรัมป์แพ้ไบเดนเมื่อ ค.ศ.2020 หลายคนคิดว่าทรัมป์โดนฝังลงไปอยู่ในหลุม ใครๆก็คิดว่าทรัมป์ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี เป็นผีเน่าแน่นอน เพราะนอกจากจะแพ้ไบเดนแล้ว ทรัมป์ยังมีคดีความอีกมากมาย
ทว่าทรัมป์คือเมล็ดพันธุ์ แม้จะโดนดินกลบ แต่เมื่อได้น้ำก็โผล่เป็นต้นอ่อน แทรกแผ่นดินขึ้นมาแตกใบได้อีก.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com
คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม