ในการเลือกตั้งปี 2020 การใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าของประชาชนชาวอเมริกัน โดยเฉพาะการโหวตผ่านจดหมาย (เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19) ที่เป็นกรณีที่สร้างความไม่พอใจแก่บรรดาผู้สนับสนุนรีพับลิกัน

เนื่องด้วยกระบวนการนับคะแนนทางจดหมายที่ล่าช้า ส่งผลให้สถานการณ์กลับ ตาลปัตร “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่คะแนนกำลังนำโด่งในรัฐตัวแปร “สวิงสเตท” กลับถูกเบียดตกไปเป็นที่สอง และส่งผลให้ “โจ ไบเดน” กวาดรัฐสวิงสเตทไปทั้งหมด 6 รัฐ จาก 7 รัฐ ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำทำเนียบขาวสหรัฐฯ

ทำให้การเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 ครั้งนี้ ทางพรรครีพับลิกันจึงพยายามส่งเสริมประชาชนผู้สนับสนุนให้ช่วยกันเลือกตั้งล่วงหน้ากันเป็นจำนวนมาก โดยจากข้อมูลสถิติพบว่า มีคนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้วกว่า 76 ล้านคน และมีจำนวนผู้สนับสนุนรีพับลิกันพุ่งสูงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเปิดหีบ ต่างจากการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน ที่บรรดาสมาชิกรีพับลิกันต่างรอคอยเวลาไปโหวตกันในวันจริง

โดยถือเป็นยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน และพยายามแก้ไขความผิดพลาดจากครั้งก่อน ทั้งยังตรงกับสูตรเดิมที่สร้างชัยชนะแก่ทรัมป์ในการเลือกตั้งปี 2016 ที่เน้นการกวาดคะแนนเสียงในพื้นที่ “ชนบท” มากกว่า “ตัวเมือง” และทำให้มีคะแนนนำเหนือคู่แข่งที่ครองฐานเสียงในเมืองใหญ่ ในลักษณะ “ป่าล้อมเมือง”

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังสังเกตว่า รีพับลิกันมีความเชื่อว่า ชาวรีพับลิกันจะออกมาใช้สิทธิกันอย่างล้นหลามในวันเลือกตั้งจริง เนื่องด้วยอัดแคมเปญมาตลอดว่ามีอนาคตของชาติเป็นเดิมพัน หากมีการตุนคะแนนเสียงล่วงหน้าไว้ก่อนส่วนหนึ่ง ย่อมช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุคะแนนเขย่งแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งมีรายงานสอดรับด้วยว่า รีพับลิกันตุนคะแนนล่วงหน้าไว้เยอะในรัฐตัวแปรอย่างนอร์ทแคโรไลนา จอร์เจีย และเนวาดา

...

ต่างกับเดโมแครตที่การเก็บข้อมูลสถิติพบว่า คนที่เคยโหวตล่วงหน้าในปีนี้มีจำนวนไม่เท่าคนที่เคยมาโหวตล่วงหน้าในปี 2020 และทำให้ต้องไปลุ้นเอาในวันชิงชัย 6 พ.ย. (ตามเวลาประเทศไทย)

ตุ๊ ปากเกร็ด

คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม