จากความเดิมตอนที่แล้ว ว่ารัฐ “สวิง สเตท” ตัวแปรชี้วัดการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา 2024 ถูกแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มรัฐอุตสาหกรรม “แถบสนิม” (Rust Belt) คือ เพนซิลเวเนีย มิชิแกน วิสคอนซิน ที่มักจะเทคะแนนให้พรรคหนึ่งไปพร้อมๆกันทั้ง 3 รัฐ
ตามด้วยกลุ่มรัฐ “แถบพระอาทิตย์” (Sun Belt) ที่มีอากาศอบอุ่น คือ นอร์ทแคโร ไลนา จอร์เจีย อริโซนา และเนวาดา ซึ่งกลุ่มที่สองนี้ถือเป็นเรื่องยากสำหรับคามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต ที่จะครอบครองเสียงคณะผู้เลือกตั้ง เนื่องจาก 76 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยเลยที่เดโมแครตจะกินรวบกลุ่มรัฐซันเบลต์
มีแต่ผู้สมัครจากรีพับลิกันที่มีประวัติครอบครองทั้ง 4 รัฐ ไม่ว่าจะในสมัยริชาร์ด นิกสัน โรนัลด์ เรแกน จอร์จ บุช และจอร์จ ดับเบิลยู บุช ซึ่งหนทางที่เดโมแครตจะทำได้คือ การเรียกคะแนนนิยมให้ได้มากที่สุดจากกลุ่มคนผิวดำ และกลุ่มละตินอเมริกาที่มีกราฟจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม จากผลโพลในรัฐสวิงสเตทที่คู่คี่กัน จึงไม่อาจฟันธงได้ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร และใครจะเป็นผู้คว้าคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้งตามเกณฑ์ 270 เสียง จากทั้งหมด 538 เสียง กระนั้นจากคะแนนยืนพื้น (นับจากรัฐฐานที่มั่นของทั้งสองพรรค) เดโมแครตจะครองอยู่ 226 เสียง รีพับลิกัน 219 เสียง
เท่ากับว่าหากรีพับลิกันครองกลุ่มรัสต์เบลต์ มีคะแนนเพิ่มเป็น 263 เสียง ยังขาดไปอีก 7 เสียง ต้องขออีกรัฐเดียวไม่ว่าจะเป็นนอร์ทแคโรไลนา (16) จอร์เจีย (16) หรืออริโซนา (11) หรือถ้าเหมากลุ่มซันเบลต์ จะมีคะแนนรวมอยู่ที่ 268 เสียง ต้องการอีก 1 รัฐอยู่ดี
ส่วนเดโมแครตนั้นมีแต้มต่อ ขอแค่ครองกลุ่มรัสต์เบลต์หรือกลุ่มซันเบลต์ ก็จะชนะการเลือกตั้ง เพียงแต่จะเรียกคะแนนนิยมจากคนผิวสีได้ตามแผนหรือไม่ วันที่ 6 พ.ย.คงได้เห็นผลลัพธ์กัน.
...
ตุ๊ ปากเกร็ด
คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม