นายกฯเสียใจ 4 แรงงานไทยเสียชีวิตจากสถานการณ์การสู้รบของกองกำลังติดอาวุธกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนที่เปิดฉากถล่มโจมตีอิสราเอลอย่างรุนแรงอีกครั้ง ด้วยการยิงจรวดถล่มเมืองเมตูลา ทางตอนเหนือของอิสราเอล คร่าชีวิตแรงงานที่ทำงานในพื้นที่ดับรวม 5 ศพ เป็นแรงงานอิสราเอล 1 ศพ แรงงานไทย 4 ศพ เป็นชาว จ.นคร ราชสีมา 2 ศพ ที่เหลือเป็นชาวบุรีรัมย์และอุดรธานี ทั้งยังมีแรงงานไทยเจ็บสาหัส 1 ราย รมว.ต่างประเทศเรียกร้องขอสันติภาพจาก 2 ชาติ เพื่อปกป้องผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งที่ยืดเยื้อรุนแรง ด้าน รมว.แรงงานสั่งแรงงานจังหวัดไปเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ดูแลช่วยเหลือเยียวยา
สุดเศร้าแรงงานไทยในอิสราเอลต้องเสียชีวิตสังเวยความขัดแย้งของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนกับอิสราเอลที่ฝังรากหยั่งลึกมากว่า 40 ปี และยัง มองไม่เห็นจุดสิ้นสุดและทวีความรุนแรงจนทะลุถึงจุดเดือดอีกครั้งเมื่อคืนวันที่ 31 ต.ค. โดยสำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์ว่า กองกำลังกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ยิงจรวดโจมตีเมืองเมตูลา ทางตอนเหนือของอิสราเอล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันที 5 ศพ เป็นเกษตรกรชาวอิสราเอล 1 ศพที่เหลือ 4 ศพเป็นแรงงานไทยที่ทำงานภาคเกษตรอยู่ใกล้พื้นที่การสู้รบ นอกจากนี้ยังมีแรงงานไทยบาดเจ็บสาหัส 1 ราย
ต่อมาเมื่อเย็นวันที่ 1 พ.ย. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความผ่าน X ว่าเมื่อคืนวันที่ 31 ต.ค. ได้รับรายงานจากนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ว่า แรงงานชาวไทยเสียชีวิต 4คน บาดเจ็บ 1 คน จากจรวดที่ยิงมาทางตอนเหนือของอิสราเอลใกล้ชายแดนเลบานอน สถานทูตไทยในเทลอาวีฟกำลังติดต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัวของผู้สูญเสียครั้งนี้ด้วย
...
ก่อนหน้านี้ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X ถึงกรณีคนไทยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์สู้รบ ที่มีการยิงจรวดใกล้เมืองเมตูลา ใกล้ชายแดนอิสราเอล-เลบานอน เมื่อคืนวันที่ 31 ต.ค. ว่า รับทราบด้วยความเศร้าใจอย่างยิ่งว่ มีชาวไทย 4 คนเสียชีวิต อีก 1 คนได้รับบาดเจ็บ จากการยิงจรวดใกล้เมืองเมตูลา ใกล้ชายแดนอิสราเอล-เลบานอน ผมได้กำชับสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงเทลอาวีฟเมื่อคืน ให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มกำลัง ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตสำหรับการสูญเสียครั้งนี้ ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายกลับมาสู่เส้นทางแห่งสันติภาพ เพื่อปกป้องพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรงจากความขัดแย้งที่ยืดเยื้อและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวว่า ตนและผู้บริหารกระทรวงแรงงานได้กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวแรงงานไทยในอิสราเอลที่เสียชีวิตพร้อมเผยว่า ได้ให้นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ประสานอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ช่วยดูแลอพยพแรงงานทางภาคเหนือทั้งหมดไปทำงานทางภาคใต้และประสานทางการอิสราเอลกับสถานทูตไทย ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากนายกิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอลว่า แรงงานไทยเสียชีวิต 4 ราย มีภูมิลำเนาเป็นชาวจังหวัดนครราชสีมา 2 ราย คือนายกวีศักดิ์ ปานะนัง และนายธนา ติจันทึก ชาว จ.อุดรธานี 1 ราย คือนายอรรคพล วรรณไสย และชาว จ.บุรีรัมย์ 1 ราย คือนายประหยัด พิลาศรัมย์ ส่วนแรงงานไทยที่บาดเจ็บสาหัส คือนายฉัตรชัย ศิลป์ประเสริฐ ชาว จ.ชัยภูมิ
ในส่วนการเข้าเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานผู้เสียชีวิต บ่ายวันที่ 1 พ.ย. ว่าที่ร้อยโทอนุเทพ ศรีดาวเรือง จัดหางานจังหวัดอุดรธานี น.ส.อรกัญญา นามจุมจัง ปลัดอำเภอกุดจับ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประกันสังคม เดินทางไปบ้านเลขที่ 129 หมู่ 3 บ้านดงหมากหลอด ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี เข้าแสดงความเสียใจและให้กำลังใจนายนพดล และนางบุญแปง วรรณไสย พ่อแม่ของนายอรรคพล วรรณไสย อายุ 29 ปี แรงงานไทยในอิสราเอลที่เสียชีวิตจากสงคราม พร้อมกับแจ้งสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ โดยมีนางอุไรวรรณ อำพวา ผญบ.บ้านดงหมากหลอด ญาติพี่น้องและชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันมาร่วมให้กำลังใจ
นางบุญแปงเผยว่า มีลูก 2 คน นายอรรคพลเป็นคนโต คนเล็กเป็นลูกสาวไปทำงานที่เกาหลี ลูกชายไปทำงานเกษตรที่อิสราเอลได้ 3 ปี เมื่อปี 2565 เกิดสงครามจึงกลับบ้าน ต่อมานายจ้างโทรศัพท์ตามให้กลับไปทำงานต่อ ลูกชายจึงเดินทางกลับไปทำงานเมื่อปี 2566 โดยซื้อตั๋วเครื่องบินไปเอง ทั้งลูกชายและลูกสาวส่งเงินมาให้แม่สร้างบ้าน เมื่อทราบข่าวจากเพื่อนลูกชายที่ทำงานด้วยกันโทรศัพท์มาบอกเมื่อคืนวันที่ 31 ต.ค.ว่า ลูกชายเสียชีวิตครอบครัวก็ช็อกและเสียใจเพราะไม่มีลางสังหรณ์อะไรเลย เพิ่งโทรศัพท์คุยกับลูกเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 วันก่อนลูกตายอยากบอกดวงวิญญาณของลูกว่า ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้กลับมาเป็นแม่กับลูกกันอีก
นอกจากนี้นายอำนาจ เข็มเพชร รักษาราชการแทนแรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำคณะและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางไปบ้านเลขที่ 129/1 บ้านหนองพลวง หมู่ที่ 3 ต.ลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ให้กำลังใจครอบครัวของนายประหยัด พิลาศรัมย์ อายุ 42 ปี แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสงครามในอิสราเอล พบนายยศและนางรน พิลาศรัมย์ ทั้งคู่อายุ 70 ปี พ่อแม่นายประหยัด พร้อมกับ น.ส.ประไพ บุหงา อายุ 40 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิตที่ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียสามีอย่างกะทันหัน มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวพากันมาร่วมแสดงความเสียใจ ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้นนายอำนาจแจ้งทั้งเรื่องเงินช่วยเหลือจากนายจ้าง การติดตามค่าจ้างค้างจ่ายจากนายจ้าง เงินช่วยเหลือจากภัยสงคราม ส่วนศพอยู่ระหว่างการพิสูจน์อัตลักษณ์ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 10-11 วัน จึงจะส่งร่างกลับมาบำเพ็ญกุศลยังบ้านเกิดได้
...
น.ส.ประไพภรรยานายประหยัดเผยว่า สามีไปทำงานอิสราเอลเพราะอยากมีรายได้มาเลี้ยงดูพ่อแม่และครอบครัวเพราะมีลูกถึง 3 คน สามีเดินทางไปเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.64 จากนั้นเกิดเหตุสู้รบทางการให้เดินทางกลับไทย เมื่อวันที่ 25 ต.ค.66 ต่อมานายจ้างให้กลับไปทำงานอีกเพราะยังไม่ครบสัญญาจ้างตอนแรกสามีทำงานอยู่แถวภาคกลางซึ่งไม่อันตรายมาก แต่เพื่อนชวนไปทำงานทางตอนเหนือเพราะมีค่าแรงที่สูงกว่า ที่ผ่านมาโทรศัพท์หาสามีทุกวัน สามีเล่าว่ามีเหตุสู้รบเกือบทุกวัน บางวันขีปนาวุธยิงข้ามหัวจุดที่ทำงาน ได้บอกให้สามีดูแลตัวเองดีๆ ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุแบบนี้ทำให้เสียใจมาก
ผู้เสียชีวิตจากเหตุสงครามในอิสราเอลอีกราย คือนายกวีศักดิ์ ปาปะนัง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่237 หมู่ 4 บ้านหนองมะเขือ ต.ช่องแมว อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพบนางสุมาลี พิมพ์ศรี อายุ 40 ปี ภรรยานายกวีศักดิ์ เผยว่า สามีไปทำงานด้านเกษตรที่อิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 และโทรศัพท์คุยกันทุกวัน จนเมื่อเย็นวันที่ 31 ต.ค. สามีวิดีโอคอลมาคุย หลังจากนั้นไม่นานมีโทรศัพท์จากสถานทูตไทยในอิสราเอลโทร.มาแจ้งครั้งแรกว่า ที่พักที่สามีอาศัยอยู่ถูกระเบิดถล่ม มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 6 คน เป็นคนไทย 4 คนมีสามีตนรวมอยู่ด้วยและชาวต่างชาติอีก 2 คน สักพักมีโทรศัพท์มาอีกครั้งแจ้งว่าสามีของตนเสียชีวิตแล้ว ตนกับญาติพี่น้องรู้สึกช็อกอย่างมาก สามีเป็นเสาหลักของครอบครัว ดูแลพ่อแม่พี่น้องกับหลานๆรวม 10 ชีวิต ที่ไปทำงานที่อิสราเอลเพราะเห็นว่ามีรายได้ดี เดือนละ 40,000-50,000 บาท นำมาใช้จ่ายในครอบครัวและใช้หนี้สินเมื่อสามีเสียชีวิต ทำให้ครอบครัวขาดเสาหลัก สำหรับร่างของสามีจะมีเจ้าหน้าที่นำมาส่งที่บ้านภายในเวลา 1 สัปดาห์
ในส่วนผู้บาดเจ็บคือนายฉัตรชัย ศิลป์ประเสริฐ อายุ 36 ปี ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ จ.ชัยภูมิ เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 293 หมู่ 9 ต.โนนสำราญ อ.เมือง จ.ชัยภูมิของนายฉัตรชัย พบนายจักรีศิลป์และนางรัศมี ศิลป์ประเสริฐ พ่อแม่และ น.ส.สายฝน บึกชัยภูมิ อายุ 31 ปี ภรรยานายฉัตรไชย มีเพื่อนบ้านและญาติมาให้กำลังใจครอบครัวนายฉัตรชัยจำนวนมาก ขณะเดียวกันมีนายปัญญา เลิศใหญ่ แรงงานจังหวัดชัยภูมิ นำคณะเจ้าหน้าที่มาเยี่ยมปลอบขวัญครอบครัวนายฉัตรชัย น.ส.น้ำฝนเปิดเผยว่า สามีเคยไปทำงานที่อิสราเอลครั้งแรกเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ต่อมาด้วยความจนทำให้ตัดสินใจกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกครั้งเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมาแม้อยู่ในช่วงภาวะสงครามแต่ก็ไปเพราะยังมีภาระหนี้สินอีกมาก แต่ละเดือนจะส่งเงินมาให้ครอบครัวประมาณ 40,000 บาท ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อสามีได้
...
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ทางการอิสราเอลและสถานทูตไทยในกรุงเทลอาวีฟได้ประกาศอพยพแรงงานออกจากพื้นที่สีแดง ซึ่งเป็นพื้นที่ปิดทางทหารในภาคเหนือของอิสราเอลไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยทางภาคใต้ที่ไม่มีการสู้รบ แต่พบว่ามีบางส่วนยังอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยไม่ยอมย้ายออก ทำให้ในวันที่ 11 ต.ค. นายนิสันต์ มีรัมย์ อายุ 42 ปี แรงงานไทยชาวจ.บุรีรัมย์ ได้เสียชีวิตจากการระเบิดของกระสุนที่ตกอยู่ในบริเวณไร่แอปเปิ้ลที่นายนิสันต์ทำงานอยู่ เพิ่งมีการนำศพส่งกลับไทยเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ล่าสุดเกิดเหตุสลดถูกจรวดยิงข้ามพรมแดนเสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย ทำให้มียอดแรงงานไทยเสียชีวิตตั้งแต่วันที่7ต.ค.66 รวม 46 ราย บาดเจ็บ 18 ราย ขณะนี้ยังมีแรงงานไทยทำงานภาคเกษตรในอิสราเอลประมาณ 3 หมื่นคน
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่