แมคโดนัลด์ร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังระดับโลก กลับมาขาย "ควอเตอร์ พาวน์เดอร์" ในสหรัฐฯอีกครั้ง หลังผลการตรวจสอบของกรมวิชาการเกษตรแห่งรัฐโคโลราโดยืนยันว่า ไม่พบว่ามีเชื้ออีโคไลปนเปื้อนแล้ว

ก่อนหน้านี้ร้านแมคโดนัลด์หลายสาขาในสหรัฐฯต่างถอดเมนู "ควอเตอร์ พาวน์เดอร์" เบอร์เกอร์เนื้อพรีเมียมตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังพบว่ามีผู้บริโภคทานเข้าไปแล้ว เสียชีวิต 1 ศพ และล้มป่วยอีกหลายสิบคนในหลายรัฐ เนื่องจากมีการติดเชื้ออีโคไล จนล่าสุดแมคโดนัลด์ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าผลจากการตรวจสอบของกรมวิชาการเกษตรแห่งรัฐโคโลราโด หรือ CDA ไม่พบเชื้ออีโคไลในบอร์เกอร์เนื้อพรีเมียม "ควอเตอร์ พาวน์เดอร์" แล้ว และจะไม่มีการตรวจสอบใดๆเพิ่มเติมอีก พร้อมยืนยันว่าจะได้ตัดวัตถุดิบที่อาจปนเปื้อนออกไปทั้งหมดแล้ว

ส่วนข้อสันนิษฐานอีกข้อที่คาดว่าเชื้ออีโคไลอาจจะปนเปื้อนจากหัวหอม ล่าสุดทางแมคโดนัลด์ได้ยกเลิกการรับหัวหอมจากผู้ค้าส่งเจ้าเดิม ซึ่งก็คือ เทย์เลอร์ ฟาร์ม ในโคโลราโด สปริงส์แล้ว โดยก่อนเกิดเหตุ เทย์เลอร์ ฟาร์มได้ส่งหัวหอมให้แก่ร้านแมคโดนัลด์ถึง 900 แห่ง ซึ่งหลังจากนี้เมนู "ควอเตอร์ พาวน์เดอร์" จะงดใส่หัวหอมไปก่อน

ก่อนหน้่านี้ทางหน่วยงานควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯได้แนะนำให้ผู้ที่บริโภค "ควอเตอร์ พาวน์เดอร์" เข้าไปและมีอาการผิดปกติอย่างท้องเสีย อุจจาระเป็นเลือด มีไข้สูงกว่า 38.9 องศาเซลเซียส หรือคลื่นไส้อาเจียนให้รีบไปพบแพทย์ทันที โดยอาการมักจะเกิดขึ้นหลังได้รับเชื้อเข้าไปราว 3-4 วัน และหากร่างกายแข็งแรงก็อาจจะหายได้เองใน5-7 วัน แต่บางรายอาการอาจจะรุนแรง ถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล โดยล่าสุดมีรายงานว่าลูกค้าหลายรายที่ล้มป่วยจากการทานเบอร์เกอร์ของแมคโดนัลด์ ได้มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากแมคโดนัลด์แล้ว.

...

ที่มา : channelnewsasia

คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ แมคโดนัลด์