เลือกตั้งสหรัฐฯ 2024: ขณะที่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ เรามาทำความรู้จักผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี ทั้งจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน กันว่าพวกเขาเป็นใครมาจากไหน

คามาลา แฮร์ริส (Kamala Harris)

เป็นรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกา และเป็นผู้หญิงเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันและเอเชียใต้คนแรกที่ดำรงตำแหน่งนี้

ประวัติส่วนตัว

เกิด: 20 ตุลาคม 1964 ที่เมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย

พ่อแม่:บิดาของเธอ ดร. โดนัลด์ แฮร์ริส เป็นนักเศรษฐศาสตร์จากจาเมกามารดาของเธอ ดร. ชยามาลา โกปาลัน เป็นนักวิจัยด้านมะเร็งและนักเคลื่อนไหวที่มาจากอินเดีย

การศึกษา:จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดได้รับปริญญาด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เฮสติ้งส์เส้นทางอาชีพอัยการ

เริ่มต้นอาชีพในฐานะอัยการในสำนักงานเขตซานฟรานซิสโกปี 2004 เธอได้รับเลือกเป็น อัยการสูงสุดของเมืองซานฟรานซิสโก โดยมุ่งเน้นการปฏิรูปการพิจารณาคดีและการปราบปรามอาชญากรรม

...

ในปี 2011 เธอได้รับตำแหน่ง อัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเธอได้จัดการกับคดีสำคัญๆ เช่น คดีเกี่ยวกับสิทธิของแรงงาน การป้องกันการฉ้อโกง และสิ่งแวดล้อมการเมือง

ในปี 2017 กมลา แฮร์ริส ได้รับเลือกเป็น วุฒิสมาชิกของสหรัฐอเมริกา จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นวุฒิสมาชิกหญิงเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันคนที่สองในประวัติศาสตร์

เธอทำงานในคณะกรรมาธิการด้านตุลาการ การเงิน การทหาร และกิจการความมั่นคงแห่งชาติ และเป็นที่รู้จักจากการซักถามเชิงเข้มข้นในกระบวนการพิจารณาของวุฒิสภา

รองประธานาธิบดี

ปี 2020 เธอได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้สมัครรองประธานาธิบดีของโจ ไบเดน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

เธอและไบเดนชนะการเลือกตั้ง และเธอได้รับตำแหน่งเป็น รองประธานาธิบดีหญิงคนแรก ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2021นโยบายและผลงานสำคัญ

กมลา แฮร์ริสให้ความสำคัญกับประเด็นต่างๆ เช่น การปฏิรูปการยุติธรรมทางอาญา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การดูแลสุขภาพ และสิทธิมนุษยชน เธอเน้นย้ำถึงการสร้างความเสมอภาคในสังคม การสนับสนุนผู้หญิงและชนกลุ่มน้อย

โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump)

เป็นนักธุรกิจและนักการเมืองชาวอเมริกัน ซึ่งดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกาในช่วงปี 2017–2021

ประวัติส่วนตัว

เกิด: 14 มิถุนายน 1946 ที่เมืองควีนส์ รัฐนิวยอร์ก

พ่อแม่: บิดาของเขา เฟรด ทรัมป์ เป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียง ส่วนมารดาของเขาคือ แมรี แอนน์ แมคเลียด ทรัมป์ มาจากสกอตแลนด์

การศึกษา: ทรัมป์ได้รับการศึกษาที่สถาบันการทหารนิวยอร์ก และจบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์จาก วิทยาลัยวอร์ตัน มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ในปี 1968

เส้นทางอาชีพ

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์:

ทรัมป์เริ่มต้นอาชีพในธุรกิจของครอบครัว โดยทำงานให้กับบริษัทของบิดาที่ชื่อว่า Elizabeth Trump & Son ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น The Trump Organizationเขาประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในนิวยอร์ก เช่น Trump Tower และโรงแรมหรูหลายแห่งทรัมป์ยังขยายธุรกิจของเขาไปสู่คาสิโน และยังเป็นที่รู้จักจากการสร้างแบรนด์ส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม สนามกอล์ฟ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆสื่อและความบันเทิง

ทรัมป์เป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการเป็นพิธีกรรายการทีวีเรียลลิตี้ยอดนิยม The Apprentice ซึ่งออกอากาศระหว่างปี 2004–2015 โดยเขาได้กลายเป็นที่รู้จักจากสโลแกน “You’re fired!” 

การลงสมัครรับเลือกตั้งปี 2016

โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปี 2015 ในนามพรรครีพับลิกัน โดยใช้นโยบายที่เน้นการสร้างงานให้ชาวอเมริกัน การควบคุมการอพยพ และการเจรจาข้อตกลงการค้าที่ “อเมริกาต้องมาก่อน” (America First)ทรัมป์ได้รับชัยชนะเหนือฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครตใน การเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016 และได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคม 2017

...

ผลงานในตำแหน่งประธานาธิบดี

ในช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ทรัมป์ได้ผลักดันนโยบายสำคัญหลายประการ เช่นการลดภาษีครั้งใหญ่ในปี 2017การยกเลิกและแก้ไขข้อตกลงทางการค้าต่างประเทศหลายฉบับ เช่น ข้อตกลง NAFTA และการเจรจาข้อตกลงทางการค้ากับจีนการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโกเพื่อควบคุมการอพยพอย่างผิดกฎหมายนโยบายต่างประเทศของเขามุ่งเน้นการลดบทบาทของสหรัฐฯ ในข้อตกลงระหว่างประเทศ เช่น ข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านทรัมป์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการสนับสนุนทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง

การถูกถอดถอน

ทรัมป์ถูกสภาผู้แทนราษฎรถอดถอน (impeachment) สองครั้ง ครั้งแรกในปี 2019 เกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่าเขาใช้อำนาจในทางที่ผิดโดยกดดันให้ยูเครนสอบสวนโจ ไบเดน คู่แข่งทางการเมืองครั้งที่สองในปี 2021 เกี่ยวกับบทบาทของเขาในเหตุการณ์การบุกรุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ (Capitol riot) หลังการเลือกตั้งปี 2020อย่างไรก็ตาม เขารอดพ้นจากการถอดถอนทั้งสองครั้งเมื่อคณะวุฒิสภาไม่สามารถลงมติให้ถอดถอนเขาได้สำเร็จการลงสมัครรับเลือกตั้งปี 2020 และหลังตำแหน่งประธานาธิบดี

ทรัมป์แพ้การเลือกตั้งในปี 2020 ให้กับ โจ ไบเดน แต่เขาอ้างว่าการเลือกตั้งมีการฉ้อโกงและพยายามที่จะพลิกผลการเลือกตั้งผ่านกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งไม่สำเร็จหลังพ้นจากตำแหน่ง ทรัมป์ยังคงมีบทบาทในพรรครีพับลิกันและยังคงเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในทางการเมือง

...

ทิม วอลซ์ (Tim Walz)

เป็นนักการเมืองชาวอเมริกันและสมาชิกพรรคเดโมแครต ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา โดยเริ่มดำรงตำแหน่งตั้งแต่เดือนมกราคม 2019

ประวัติส่วนตัว

ชื่อเต็ม: ทิโมธี เจมส์ วอลซ์ (Timothy James Walz)เกิด: 6 เมษายน 1964 ที่เมืองเวสต์พอยต์ รัฐเนแบรสกา สหรัฐอเมริกา

ครอบครัว:เขาแต่งงานกับ เกว็น วอลซ์ (Gwen Walz) และมีลูกสองคนการศึกษา: สำเร็จการศึกษาจากสถาบัน Chadron State College รัฐเนแบรสกา

เส้นทางอาชีพ

การทำงานในกองทัพก่อนเข้าสู่การเมือง ทิม วอลซ์เคยรับราชการทหารในกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (Army National Guard) นาน 24 ปี

การเป็นครูและผู้บริหารการศึกษาหลังจากออกจากกองทัพ วอลซ์ทำงานเป็นครูสอนวิชาสังคมศึกษาในโรงเรียนมัธยมในรัฐมินนิโซตา และเป็นที่ปรึกษาทางการศึกษาด้านการฝึกอบรมครู เขายังเคยเป็นครูสอนที่โรงเรียนมัธยมปลายในจีนเป็นเวลา 1 ปีในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980

เส้นทางการเมือง

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ทิม วอลซ์เริ่มเส้นทางการเมืองของเขาในปี 2006 เมื่อเขาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากรัฐมินนิโซตา เขต 1 ซึ่งเป็นพื้นที่ในภาคใต้ของรัฐที่เน้นอุตสาหกรรมการเกษตร

ระหว่างดำรงตำแหน่งในสภาผู้แทนราษฎร วอลซ์มีบทบาทในการผลักดันนโยบายเกี่ยวกับการเกษตร ทหารผ่านศึก และการดูแลสุขภาพ

เขาได้รับเลือกอีกครั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนฯ หลายสมัย จนกระทั่งตัดสินใจลงสมัครเป็นผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา

ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา

ในปี 2018 ทิม วอลซ์ได้รับเลือกตั้งเป็น ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา และเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม 2019
วอลซ์ให้ความสำคัญกับประเด็นด้านการศึกษา การขยายการเข้าถึงบริการสุขภาพ และการแก้ไขปัญหาความยุติธรรมทางสังคม นอกจากนี้ เขายังมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรัฐมินนิโซตาเขาได้รับเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2022 เพื่อดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง

...

นโยบายและผลงานสำคัญ

การศึกษา: วอลซ์ส่งเสริมการเพิ่มเงินทุนเพื่อสนับสนุนระบบการศึกษาของรัฐ และสนับสนุนการให้โอกาสการศึกษาแก่คนหนุ่มสาวในทุกพื้นที่

การดูแลสุขภาพ: เขาผลักดันนโยบายเพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพสำหรับประชาชนในรัฐมินนิโซตา
การบริหารจัดการโควิด-19: วอลซ์มีบทบาทสำคัญในการวางมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยในช่วงวิกฤตโควิด-19 โดยการออกมาตรการล็อกดาวน์และการขยายบริการฉีดวัคซีน

เจ.ดี. แวนซ์ (J.D. Vance)

เป็นนักการเมือง นักเขียน และนักธุรกิจชาวอเมริกัน ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากรัฐโอไฮโอ ตั้งแต่ปี 2023 แวนซ์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากหนังสืออัตชีวประวัติของเขาเรื่อง Hillbilly Elegy ซึ่งสะท้อนถึงชีวิตในครอบครัวชนชั้นแรงงานที่ยากจนและปัญหาทางสังคมในภูมิภาคแอปพาลาเชีย

ประวัติส่วนตัว

ชื่อเต็ม: เจมส์ เดวิด แวนซ์ (James David Vance)
เกิด: 2 สิงหาคม 1984 ในเมืองมิดเดิลทาวน์ รัฐโอไฮโอ

ครอบครัว: เติบโตในครอบครัวชนชั้นแรงงานและมีปู่ย่าช่วยเลี้ยงดู เนื่องจากแม่ของเขาประสบปัญหาการติดยาเสพติด

การศึกษา:

จบการศึกษาด้านรัฐศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอ
ได้รับปริญญานิติศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยเยล ซึ่งที่นั่นเขาได้รับคำแนะนำจากศาสตราจารย์ชื่อดัง เอมี เชอวาลด์ (Amy Chua)

เส้นทางอาชีพ

การทำงานในกองทัพ

แวนซ์เคยรับราชการใน กองนาวิกโยธินสหรัฐฯ และเข้าร่วมสงครามในอิรัก ก่อนที่จะกลับมาสร้างอาชีพด้านกฎหมายและธุรกิจ

นักเขียน

ในปี 2016 เขาเขียนหนังสืออัตชีวประวัติชื่อ "Hillbilly Elegy: A Memoir of a Family and Culture in Crisis" ซึ่งเล่าถึงการเติบโตในครอบครัวที่ยากจนในพื้นที่ภูเขาแอปพาลาเชีย หนังสือเล่มนี้กลายเป็นหนังสือขายดีและได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวางในเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจในสหรัฐฯ โดยเฉพาะกับชนชั้นแรงงานผิวขาว

หนังสือเล่มนี้ยังถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2020 โดยผู้กำกับรอน ฮาวเวิร์ด ซึ่งทำให้ชื่อของเขากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

นักธุรกิจ

แวนซ์ทำงานในธุรกิจการลงทุน และเป็นหนึ่งในผู้บริหารของบริษัทกองทุนร่วมลงทุน โดยมุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีที่มีศักยภาพเติบโต

เส้นทางการเมือง

การลงสมัครวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ

ในปี 2021 เจ.ดี. แวนซ์ประกาศลงสมัครเป็น วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากรัฐโอไฮโอ ในนามพรรครีพับลิกัน แวนซ์ได้รับการสนับสนุนจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งช่วยผลักดันให้เขาชนะการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรครีพับลิกันในปี 2022

แวนซ์ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพฤศจิกายน 2022 และเริ่มดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกในปี 2023

นโยบายและแนวคิด

นโยบายอนุรักษนิยม: แวนซ์เป็นผู้สนับสนุนแนวคิดชาตินิยมทางเศรษฐกิจ (economic nationalism) และมีจุดยืนที่ใกล้เคียงกับแนวคิด "อเมริกาต้องมาก่อน" ของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเน้นการปกป้องคนอเมริกันชนชั้นแรงงานจากผลกระทบของการค้าเสรีและโลกาภิวัตน์

การวิจารณ์ชนชั้นนำ: ในหนังสือและการรณรงค์ทางการเมือง แวนซ์วิจารณ์ถึงการละเลยและไม่ให้ความสำคัญต่อชนชั้นแรงงานในพื้นที่ชนบทของสหรัฐฯ จากชนชั้นนำทางการเมืองและเศรษฐกิจ

การต่อต้านการใช้ยาเสพติด: แวนซ์เน้นถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่แพร่ระบาดในพื้นที่ยากจน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่เขาได้รับโดยตรงจากครอบครัวของเขา

เจ.ดี. แวนซ์เป็นตัวแทนของการฟื้นตัวของชนชั้นแรงงานในภาคการเมืองของสหรัฐฯ และการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจและสังคม.

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign