เลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 : ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียอาจมีบทบาทสำคัญในเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯปี 2024 หลังผลสำรวจชี้ว่าคนกลุ่มนี้สนับสนุนรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสมากกว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเชื้อสายจีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น, เกาหลี, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์ และจากเกาะแปซิฟิกกำลังเป็นส่วนแบ่งที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งของสหรัฐฯ

โดยสำนักข่าวเอพีรายงานว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียหลายคนมีความกระตือรือร้นที่จะลงคะแนนเสียงให้กับนางแฮร์ริส ซึ่งเธออาจจะได้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ ที่มีเชื้อสายชาวเอเชียใต้ด้วย

ฟรานเซส เชียห์ สมาชิกพรรคเดโมแครตจากซานฟรานซิสโกระบุว่า การมีประธานาธิบดีหญิงคนแรก การมีประธานาธิบดีเชื้อสายเอเชียคนแรก หรือการมีประธานาธิบดีหญิงผิวดำคนแรก มันเป็นแรงบันดาลใจอย่างมากที่แฮร์ริสเป็นผู้สมัคร

โดย AAPI ย่อมาจาก "Asian American and Pacific Islander" ซึ่งหมายถึงกลุ่มคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียและชาวเกาะแปซิฟิก ซึ่งในสังคมอเมริกา กลุ่ม AAPI จะรวมถึงบุคคลที่มีเชื้อสายจากประเทศในเอเชีย เช่น จีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น, เกาหลี, เวียดนาม และฟิลิปปินส์ รวมถึงชาวเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น ฮาวายและเกาะต่างๆ ในโอเชียเนีย

...

กลุ่ม AAPI มีความหลากหลายทั้งในด้านวัฒนธรรม ภาษา และประสบการณ์ทางสังคม โดยพวกเขามีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจและสังคมอเมริกา และมักมีการสนับสนุนสิทธิและการแสดงออกทางวัฒนธรรมในสังคมอเมริกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางคนก็ให้ความสำคัญไปที่ประเด็นปัญหาต่างๆ มากกว่าเรื่องของการทลายอุปสรรคด้านเชื้อชาติและเพศเพียงอย่างเดียว

อย่างนายอุทคาร์ช เจน นักศึกษาจาก UC Berkeley ระบุว่า สิ่งที่เขาพิจารณา ก็คือเรื่องของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมและคนไร้บ้าน โดยเฉพาะในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีความขัดแย้งระหว่างประเทศหลายอย่างที่ต้องแก้ไข

ผลสำรวจที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้วจาก AAPI Data และ APIAVote พบว่าประมาณ 6 ใน 10 ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่เป็นกลุ่มคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียและชาวเกาะแปซิฟิกที่ลงทะเบียน มีความเห็นที่ดีหรือค่อนข้างดีต่อแฮร์ริส ขณะที่ประมาณ 1 ใน 3 มีมุมมองที่ไม่ค่อยดีหรือไม่ดีเลย เมื่อเปรียบเทียบแล้ว 3 ใน 10 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มนี้ มีมุมมองเชิงบวกต่อทรัมป์ และประมาณ 2 ใน 3 ที่มีมุมมองเชิงลบต่อเขา.

ที่มา : เอพี

คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ เลือกตั้งสหรัฐฯ 2024