การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในกรุงเบรุตของเลบานอนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สัตว์ที่อาศัยในศูนย์พักพิงได้รับบาดแผลทางจิตใจอย่างรุนแรง
"อัลยาร์ซ เพ็ต คลับ" (Alyarz Pet Club) สถานสงเคราะห์สัตว์ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางการโจมตีของอิสราเอลเพียงไม่กี่นาที กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องสัตว์ต่างๆ โดยสถานสงเคราะห์สัตว์ซึ่งมีแมว 100 ตัวและสุนัข 25 ตัว ได้รับผลกระทบจากการโจมตีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สัตว์ที่อาศัยในสถานสงเคราะห์ต้องทุกข์ทรมานอย่างมาก โดยภาพจากกล้องวงจรปิดภายในสถานสงเคราะห์ฯ เผยให้เห็นแมวและสุนัขวิ่งกันอย่างตื่นตระหนก ขณะที่ระเบิดถูกทิ้งลงในเขตชานเมืองทางใต้ของกรุงเบรุต
ราเซน คาติบ ผู้ก่อตั้งสถานสงเคราะห์สัตว์กล่าวว่า "แมวและสุนัขเริ่มแสดงอาการวิตกกังวลอย่างมาก ขณะที่การต่อสู้กันเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น พวกมันมีอาการท้องเสียและอาเจียนมากขึ้น"
สถานสงเคราะห์สัตว์ได้ช่วยเหลือสัตว์หลายตัวตั้งแต่ที่การโจมตีด้วยระเบิดของอิสราเอลขยายวงออกไป รวมถึงแมวสี่ตัวที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง แมวสองตัวที่ได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งเป็นลูกแมวอายุเพียง 1 เดือน สูญเสียการมองเห็นเนื่องจากการระเบิด คาติบกล่าวว่า "เราตั้งชื่อให้พวกมันว่า แอชตา และ อาซัล ซึ่งแปลว่า ครีมและน้ำผึ้ง
แมวตัวหนึ่งได้รับการช่วยเหลือหลังจากที่อาคารสองหลังรอบๆ พังถล่มลงมา และอีกตัวหนึ่งซึ่งเป็นสุนัข ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟไหม้อย่างรุนแรงจากการระเบิด และขณะนี้กำลังได้รับการรักษา
นอกจากแมวและสุนัขแล้ว อัลยาร์ซ เพ็ต คลับ ยังดูแลนก เต่า และกระต่ายอีกด้วย สถานสงเคราะห์สัตว์ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2020 แห่งนี้เป็นสถานสงเคราะห์สัตว์ที่ช่วยเหลือสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ สัตว์บางตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกทารุณกรรม หรือพิการ แต่การโจมตีที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ปัญหาต่างๆ ทวีความรุนแรงมากขึ้น
...
คาติบกล่าวว่า "สัตว์ต่างๆ กำลังได้รับความทุกข์ทรมาน ไม่ว่าจะจากความบอบช้ำทางจิตใจหรือจากระเบิด เพราะพวกมันอยู่ที่นี่"
สัตว์บางตัวในสถานสงเคราะห์สัตว์เคยได้รับความบอบช้ำทางจิตใจอย่างรุนแรงมาก่อน เช่น จูเลีย แมวที่เป็นอัมพาตหลังจากกระโดดลงมาจากระเบียง ถูกนำมาที่อัลยาร์ซหลังจากที่ครอบครัวของมันต้องการทำการุณยฆาต แต่โชคดีที่สัตวแพทย์ที่พวกเขาปรึกษาได้ติดต่อสถานสงเคราะห์สัตว์แทน ทำให้จูเลียมีโอกาสครั้งที่สองในชีวิต
คาติบยังแสดงความกังวลต่อความปลอดภัยของสัตว์ในสถานสงเคราะห์สัตว์เนื่องจากเหตุระเบิดที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น "พวกเราไม่มีแผนการอพยพ ทุกๆ วัน พวกเขาทิ้งระเบิดใส่ถนนที่ใกล้ที่พักพิงมากขึ้นเรื่อยๆ และพวกเราก็กลัวมาก เราไม่รู้ว่าจะอพยพอีกครั้งเมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าต้องอพยพอย่างไร หรือจะไปที่ไหน" "พวกเราหมดหนทางจริงๆ พวกเราได้แต่ภาวนาว่าเราจะไม่ถูกถล่มในพื้นที่นี้"
แม้จะเผชิญกับความท้าทาย แต่เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครก็ยังคงทุ่มเทอย่างเต็มที่ และหวังว่าสิ่งเลวร้ายที่สุดจะไม่เกิดขึ้นกับพวกเขา.
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign