สำนักสงฆ์ป่าช้าบ้านด่าน-ตาไทย อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ โดยพระธวิชชา ปัญญานาโค (ครูบาตึ๋ง) กำลังสร้างเมรุและซื้อเตาเผาศพ ท่านใดจะทำบุญเชิญที่ ธ.ก.ส.เลขที่ 020231705553 ชื่อบัญชี ‘กองบุญซื้อเตาเผาศพและสร้างเมรุเผาศพสำนักสงฆ์ป่าช้าบ้านด่านตาไทย’ ขออนุโมทนาบุญครับ
29 กันยายน 2024 มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาล่างหรือสภาแห่งชาติของออสเตรีย 183 ที่นั่ง ผู้ที่จะได้คะแนนเสียงข้างมากที่จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้จะต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งหรือ 92 ที่นั่งเป็นต้นไป
ผลการเลือกตั้งออกมาแล้วครับ พรรคที่ได้คะแนนอันดับ 1 ร้อยละ 29.2 หรือ 58 ที่นั่งคือพรรคเสรีภาพ พรรคที่ได้อันดับ 2 คือพรรคประชาชนออสเตรีย เสียงของพรรคประชาชนฯลดลงไปเยอะครับ สส.หายไป 19 คน ได้ สส.ครั้งนี้เพียง 52 ที่นั่งหรือร้อยละ 26.5
ยุโรปเริ่มเป็นเอกภาพ ผมหมายความถึง ‘ฝ่ายขวาจัด’ เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ พวกนี้ต่อต้านผู้อพยพจากตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ และอูเครน คนยุโรปเริ่มเบื่อปัญหาสงครามรัสเซีย-อูเครนที่ยืดเยื้อ ทำให้ผู้ลี้ภัยกระจายทั่วยุโรป
เมื่อบวกกับผู้ลี้ภัยที่มาจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ทำให้ยุโรปเป็นทวีปที่ไม่น่าอยู่ มีการทะเลาะเบาะแว้งกันระหว่างคนต่างศาสนาและวัฒนธรรมเป็นประจำ
นอกจากปัญหาผู้ลี้ภัย ผู้อพยพแล้ว ปัญหาเศรษฐกิจก็ทำให้คนยุโรปเบื่อหน่ายรัฐบาลเดิมที่เดินตามก้นอเมริกาและอังกฤษ ทำให้เงินเฟ้อ รายได้ต่ำแต่ค่าครองชีพสูง อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้นในทุกประเทศของยุโรป
หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีล่มสลาย เกิดประเทศใหม่ชื่อ ‘สาธารณรัฐออสเตรีย’ ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ออสเตรียผนวกกับเยอรมนี และเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิเยอรมันจนสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบ มหาอำนาจยอมให้ออสเตรียดำเนินนโยบายต่างประเทศเป็นกลางและส่งเสริมให้กรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย เป็นศูนย์กลางการประชุมระหว่างประเทศ เช่นเดียวกับนครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์
...
เดี๋ยวนี้มีบริษัทที่รับบริหารจัดการนำผู้ลี้ภัยเข้ามาในสหภาพ ยุโรป พอเข้ามาในประเทศหนึ่งประเทศใดได้แล้ว การเดินทางจาก ประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่งจะไม่มีการตรวจตราที่พรมแดน พวกผู้ลี้ภัยจึงย้ายไปอยู่ในประเทศที่เจริญกว่าประเทศรอบนอกสหภาพยุโรป ซึ่งออสเตรียก็เป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบ
พรรคเสรีภาพตั้งเมื่อ 7 เมษายน 1956 หรือเมื่อ 68 ปีที่แล้วโดยพวกนาซี ความเป็นขวาจัดของคนในกลุ่มที่มารวมกันอยู่ในพรรคสั่งสมมาตั้งแต่ ดร.เองเงลแบร์ท ดอลล์ฟุสส์ อดีตนายกรัฐมนตรีที่ต่อต้านสังคมนิยม เคยใช้ปืนใหญ่ยิงที่อยู่อาศัยของพวกสังคมนิยมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1934 แล้วประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตามแนวลัทธิฟาสต์ซิสต์
สมัยที่ ดร.ดอลล์ฟุสส์เป็นนายกรัฐมนตรี คนออสเตรียจำนวนไม่น้อยแสดงตนเป็นนาซี ค.ศ.1955 มีการทำสนธิสัญญารัฐออสเตรีย ปีถัดมา 7 เมษายน ค.ศ.1956 ก็มีการตั้งพรรค Freedom Party of Austria ความมุ่งมั่นของพรรคนี้คือ 1.การอนุรักษ์นิยมแห่งชาติ 2.ประชานิยมฝ่ายขวาจัด 3.ต่อต้านยุโรป และ 4.ชื่นชอบรัสเซีย (รวมทั้งสหภาพโซเวียตและจักรวรรดิรัสเซีย)
ผลการเลือกตั้งของออสเตรียในครั้งนี้สะเทือนสงครามรัสเซีย-อูเครน ทำให้อาจจะมีรัฐบาลของสหภาพยุโรปอีกประเทศหนึ่งที่จะไม่สุดลิ่มทิ่มประตูกับการสนับสนุนอูเครน และไม่มีนโยบายเอียงไปกับสหภาพยุโรป มีแนวโน้มที่จะไม่เดินตามก้นสหรัฐฯและอังกฤษ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงก่อน ค.ศ.2020 เป็นเวลานานถึง 75 ปี ที่ผู้คนพยายามหลีกเลี่ยงคำว่าฟาสซิสต์หรือนาซี กลุ่มใดหรือพรรคการเมืองไหนมีแนวความคิดขวาจัดแบบฟาสซิสต์หรือนาซีจะถูกปฏิเสธจากผู้ลงคะแนนเสีย พวกนิยมนาซีต้องปกปิดตัวเอง
ตอนนี้สถานการณ์กลับตาลปัตรแล้ว กระแสชาตินิยมขวาจัดจะเริ่มแรงในทวีปยุโรปและแผ่ขยายกระจายไปในหลายประเทศ ขอเรียนครับว่า ก่อนเกิดสงครามใหญ่ทั้งหลายในโลกใบนี้ มักจะมีการปั่นกระแสชาตินิยมรุนแรงกันก่อนแทบทั้งสิ้น.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com
คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม