ราชอาณาจักรเบลเยียมมีพื้นที่ 3 หมื่นตารางกิโลเมตร เล็กกว่าภาคตะวันออกของไทย ประมุขพระองค์แรกของราชอาณาจักรเบลเยียมที่ตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ.1831 คือพระเจ้าเลโอโปลด์ที่ 1 กษัตริย์องค์ต่อมาคือพระเจ้าเลโอโปลด์ที่ 2
ประเทศของตัวเองเล็กกระจิดริดกระจ้อยร่อย คิงเลโอโปลด์ ที่ 2 จึงต้องหาแหล่งทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์เพื่อที่จะไปปล้นนำทรัพยากรเหล่านั้นกลับมาใช้ยังประเทศของตัวเอง คิงเลโอโปลด์ที่ 2 จึงจัดตั้งสมาคมแอฟริกานานาชาติ แล้วก็ออกไปยึดพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลของทวีปนี้ โดยใช้มิชชันนารี พวกหมอสอนศาสนาคริสต์ออกไปเผยแผ่ให้คนแอฟริกันยอมรับพระเจ้า และอ้างพระเจ้าเพื่อบุกยึดและปล้นสะดมทรัพยากรธรรมชาติ
มือขวาของคิงเลโอโปลด์ที่ 2 คือเฮนรี มอร์ตัน สแตนลีย์ นักข่าวชาวอเมริกัน คิงเลโอโปลด์ที่ 2 ให้สแตนลีย์ซ่อนอุปกรณ์ไฟฟ้าไว้ที่ฝ่ามือ แล้วอ้างพระเจ้า จากนั้นก็ใช้กระแสไฟฟ้าช็อตหัวหน้าเผ่าต่างๆ
ไฟฟ้าทำให้พวกหัวหน้าเผ่าและคนแอฟริกาที่เห็นเหตุการณ์เชื่อว่าพระเจ้ามอบพลังอำนาจมาให้คิงเลโอโปลด์ที่ 2 และคิงเลโอโปลด์ที่ 2 มอบพลังอำนาจนี้ให้แก่นายสแตนลีย์ หัวหน้ามากกว่า 400 เผ่าเกรงกลัวพลังอำนาจนี้มาก ยอมตกอยู่ภายใต้การปกครอง
สแตนลีย์อ้างว่าพระเจ้าให้สิทธิคิงเลโอโปลด์ที่ 2 ครอบครองดินแดนที่เป็นที่ตั้งของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกในปัจจุบัน แผ่นดินแอฟริกาที่เป็นของชาวเผ่าพื้นเมืองตกเป็นสินทรัพย์ส่วนพระองค์ของคิงเลโอโปลด์ที่ 2 มากถึง 2,343,950 ตารางกิโลเมตร สหรัฐฯและผู้แทนของยุโรป 14 ประเทศประกาศยอมรับการจัดตั้งรัฐอิสระคองโก
คิงเลโอโปลด์ที่ 2 ไม่คำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ผิวดำ ใช้นโยบายกดขี่ทารุณชาวคองโกดั่งทาส ให้ฝรั่งเอกชนเข้าไปจัดตั้งวิสาหกิจต่างๆ และบังคับใช้แรงงานชาวพื้นเมืองทั้งชาย หญิง คนชรา และเด็ก แม้ว่าจะเจ็บป่วยหรือชราเพียงใดก็ต้องออกไปกรีดยาง ไปร่อนเพชร ร่อนทอง ทำงานในเหมืองทองแดง ออกไปล่าช้างเพื่อเอางา และหาทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ คนไหนทำไม่ทันก็ทรงมีบัญชาให้ลงโทษในลักษณะต่างๆ
...
คิงเลโอโปลด์ที่ 2 เชือดไก่ให้ลิงดูด้วยการเอาครอบครัวคนคองโกมายืนรวมกลุ่มกัน แล้วให้คนผิวขาวโบยด้วยพลองที่ทำจากหนังฮิปโปโปเตมัส ให้ทยอยตัดมือ ตัดแขน ตัดขา ตัดหู ตัดจมูก หากพวกมนุษย์ผิวดำยังไม่หวาดกลัวเพียงพอ ก็ให้ฆ่าหมู่
ค.ศ.1880 ประชากรคองโกมี 20 ล้านคน ใน ค.ศ.1920 เหลือเพียง 10 ล้านคน สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 คือถูกฝรั่งผิวขาวลงโทษจนตาย ถูกทารุณกรรม ถูกปล่อยให้อดอาหารตาย ถูกใช้แรงงานเกินกำลัง และหลายครั้งมีโรคระบาด กษัตริย์เบลเยียมมีนโยบายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวผิวดำพื้นเมืองเพื่อนำแผ่นดินมาเป็นของตนเอง
เบลเยียมอยู่ติดกับเนเธอร์แลนด์ สมัยผมเรียนปริญญาตรีที่เนเธอร์แลนด์ ผมไปเบลเยียมประเทศที่อยู่ติดกันบ่อย ทุกครั้งที่เห็นความใหญ่โตหรูหราหมาเห่าของอาคารบ้านช่อง กิจการอัญมณีและเครื่องประดับ เดิมผมก็ชื่นชม
หลังจากที่พ่อผมเดินทางไปประชุมและกล่าวถ้อยแถลงในบริเวณรัฐสภายุโรป ผมไปคอยดูแลพ่อ ในฐานะที่เรียนประวัติศาสตร์ทวีปแอฟริกามาบ้าง พ่อเล่าเรื่องคิงเลโอโปลด์ที่ 2 ให้ฟัง ตั้งแต่นั้นมา ผมไม่สามารถจะชื่นชมเบลเยียมได้เหมือนเดิมอีกต่อไป
ค.ศ.2022 สมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิป กษัตริย์เบลเยียมองค์ปัจจุบัน ตรัสขอโทษชาวคองโกที่กษัตริย์และชาวเบลเยียมเคยทำทารุณกรรมบรรพบุรุษของชาวคองโกเป็น 10 ล้านคน แต่ก็เพียงแสดงความเสียใจและขอโทษ
ทุกวันนี้ เปิดฟ้าส่องโลกก็พยายามติดตามถามข่าวว่าเบลเยียม ประเทศมั่งคั่งร่ำรวยมหาเศรษฐีแห่งยุโรป ว่าเคยกลับมาช่วยเหลือเกื้อกูลชาวคองโกบ้างหรือเปล่า หรือนำของเก่าแก่โบราณที่สำคัญของชาวคองโกคืนมายังรัฐบาลคองโกบ้างหรือไม่
ในอดีต ใครต้องการสิ่งใดก็มักจะนำไปผูกกับศาสนา ศาสนาคริสต์บางนิกายบอกว่าพระเจ้าสร้างคนผิวดำมาเพื่อเป็นทาสทำงานให้ชาวผิวขาว พวกมิชชันนารีสอนย้ำๆ ซ้ำๆ คนผิวดำก็เชื่อสนิท
ศาสนาเป็นเครื่องมือของฝรั่งโบราณ ส่วนยุคต่อมาฝรั่งใช้สื่อ ปัจจุบัน ฝรั่งใช้ ‘วิจัย’ อยากให้คนเชื่อเรื่องอะไร อ้างวิจัยจากสถาบันชั้นนำของโลกก็ได้ตามประสงค์.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com
คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม