เนทันยาฮูกล่าวครั้งแรกหลังสังหารผู้นำฮิซบอลเลาะห์ ลั่นจำเป็นต้องทำเพื่อบรรลุเป้าหมายสงคราม และว่าอิสราเอลมาถึงจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสังหารนาย ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำสูงสุดของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เป็นครั้งแรก ระหว่างกลาวสุนทรพจน์ที่ศูนย์บัญชาการกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ที่กรุงเทลอาวิฟ ในวันเสาร์ที่ 28 ก.ย. 2567

เนทันยาฮูระบุว่า การลอบสังหารผู้นำฮิสบอลเลาะห์ผู้นี้ เป็นการปิดบัญชีผู้ที่ต้องรับผิดชอบสำหรับการฆาตกรรมชาวอิสราเอล และพลเรือนของประเทศอื่นๆ จำนวนนับไม่ถ้วน รวมถึงชาวอเมริกันหลายร้อนคนและชาวฝรั่งเศสอีกหลายสิบคน “การสังหารนาสรัลเลาะห์เป็นเงื่อนไขที่จำเป็นเพื่อบรรลุเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้”

เป้าหมายที่เนทันยาฮูพูดถึงคือ การพาชาวอิสราเอลกว่า 60,000 คน ต้องพลัดถิ่นจากบ้านเกิดในภาคเหนือของประเทศ จากการยิงอาวุธตอบโต้กันระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในเลบานอน ในช่วงเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา กลับคืนถิ่นฐาน

“ตราบใดที่นาสรัลเลาะห์ยังมีชีวิตอยู่ เขาจะสามารถฟื้นฟูขีดความสามารถของฮิซบอลเลาะห์ที่เราทำลายไปได้อย่างรวดเร็ว” เนทันยาฮูกล่าว “ด้วยเหตุนี้ผมจึงออกคำสั่ง และนาสรัลเลาะห์ก็ไม่อยู่กับเราแล้ว”

นายเนทันยาฮูไม่ได้พูดถึงข้อเสนอหยุดยิงบริเวณชายแดนอิสราเอล-เลบานอน ที่สหรัฐฯ กับชาติพันธมิตรเสนอที่เวทีประชุมสหประชาชาติ แต่ให้คำมั่นว่าจะต่อสู้กับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ต่อไป และกล่าวพาดพิงถึงอิหร่านโดยตรง

“ผมขอฝากข้อความถึงรัฐบาลอยาตอลเลาะห์ (ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน) ว่า ใครก็ตามที่ทำร้ายเรา เราจะทำร้ายพวกเขา” ผู้นำอิสราเอลล่าว “ไม่มีที่ใดในอิหร่านหรือในตะวันออกกลาง ที่อาวุธระยะไกลของอิสราเอลไปไม่ถึง และวันนี้ คุณก็ได้รู้แล้วว่ามันจริงแค่ไหน”

...

เนทันยาฮูบอกด้วยว่า ตอนนี้อิสราเอลมาถึงจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์แล้ว “เรามุ่งมั่นที่จะโจมตีศัตรูของเราต่อไป, พาคนของเรากลับถิ่นฐาน และนำตัวประกันทั้งหมดกลับคืนมา เราไม่เคยลืมเป้าหมายเหล่านี้เลยแม้ชั่วขณะเดียว”

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cnn