ดูเผินๆเหมือนความขัดแย้งทั้งหลายเกิดจากความต่างทางอุดมการณ์ ลัทธิ ศาสนา เชื้อชาติ หรือเผ่าพันธุ์ แต่ถ้าศึกษาให้ลึกถึงการกระโจนลงสู่สงครามของมหาอำนาจแต่ละครั้ง 'การกระตุ้นเศรษฐกิจ' ก็มีส่วนอยู่ไม่น้อย

เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่หรือ Great Depression ที่เกิดนาน 10 ปี ระหว่าง ค.ศ.1929-1939 เป็นวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในทศวรรษที่ 1930 ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยยาวนานและลึกกว่าครั้งใด ความกดดันนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ไปผสมทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งรบกันในพื้นที่ของยุโรปและเอเชียระหว่าง ค.ศ.1939-1945

เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 จบ สหรัฐฯก็กลายเป็นมหาอำนาจชาติเบอร์ 1 ของโลกของแท้ ถ้าศึกษาย้อนกลับไปถึง Great Depression ซึ่งเกิดก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเห็นว่าสหรัฐฯโดนผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากที่สุดในประวัติศาสตร์

ค.ศ.1930 เพียงปีเดียว ธนาคารสหรัฐฯปิดไปมากกว่า 1,300 แห่ง อีก 2 ปีต่อมา คือ ค.ศ.1932 ธนาคารสหรัฐฯต้องปิดไปอีกมากกว่า 6,000 แห่ง

ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ค.ศ.1929-1932 ผลผลิตมวลรวมสหรัฐฯลดลงโดยเฉลี่ยกว่าร้อยละ 10 รายได้ประชาชาติลดจาก 8.1 หมื่นล้าน เหลือเพียง 4.1 หมื่นดอลลาร์ เพียงเวลา 4 ปี ธุรกิจเจ๊งไปมากถึง 8.5 หมื่นแห่ง มีคนอเมริกันตกงานเพิ่ม 1 แสนคนทุกสัปดาห์

ค.ศ.1929 มีคนอเมริกันว่างงาน 1.5 ล้านคน แต่ ค.ศ.1932 มีคนอเมริกันตกงานถึง 12-15 ล้านคน ไม่นับแรงงานที่ทำงานแบบไม่เต็มเวลาอีกหลายล้านคน ก่อนจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้แต่คนที่เคยมีสถานะทางเศรษฐกิจดีก็ต้องออกไปขัดรองเท้า ขายแอปเปิ้ลข้างถนน ลักเล็กขโมยน้อย ไม่น้อยที่ต้องไปเป็นขอทาน อดีตเศรษฐีเจ้าของกิจการต้องใส่เสื้อผ้าดีๆออกไปยืนขายของข้างถนน โรงพยาบาลของรัฐต้องรับผู้ป่วยทางจิตเข้ารักษาเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า สถิติการฆ่าตัวตายเพิ่มสูงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

...

ค.ศ.1934–1936 เกิดความแห้งแล้งและพายุฝุ่นในภาคตะวันตกเฉียงใต้และแถว Great Plains หรือเขตที่ราบอันกว้างใหญ่ ตั้งแต่รัฐนอร์ทดาโกตาไปจนถึงรัฐเท็กซัส ทำให้บางส่วนของรัฐแคนซัส รัฐโอกลาโฮมา รัฐเท็กซัส และรัฐนิวเม็กซิโก กลายเป็น Dust Bowl หรือทุ่งฝุ่น หน้าดินถูกปกคลุมด้วยฝุ่นจนปลูกอะไรไม่ได้ สัตว์เลี้ยงต้องอดตาย
เมษายน ค.ศ.1935 มีพายุฝุ่นเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวทำให้ข้าวสาลีในบริเวณเท็กซัสแพนแฮนเดิลเสียหายคิดเป็นมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ซึ่งสูงมากในสมัยนั้น

ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวนาอเมริกัน 4 แสนราย ถูกธนาคารยึดที่ดินที่เอาไปจำนองไว้ ผู้อ่านท่านคงจะเคยได้ยินคำว่า Okies หรือโอกีส์ พวกนี้นี่ละครับ คืออดีตชาวนาที่ถูกธนาคารยึดที่ดิน และต้องกลายมาเป็นคนงานเร่ร่อน ถูกผู้คนดูหมิ่นถิ่นแคลน รัฐที่มีโอกีส์มากที่สุดคือรัฐโอกลาโฮมา

ชาวนารัฐโอกลาโฮมาที่ถูกยึดที่ดินต้องเดินทางด้วยรถไฟหรือรถยนต์เก่าๆ พร้อมสมบัติติดตัวไม่กี่ชิ้นไปหางานทำในภาคตะวันตก จุดหมายปลายทางคือรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐแคลิฟอร์เนียอุดมสมบูรณ์และไม่มีภัยธรรมชาติ

คนที่อ่านประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 เผินๆ ไม่ได้อ่านองค์ประกอบของด้านอื่น ก็อาจจะคิดว่ามาสาเหตุจากนาซีเยอรมันเพียงอย่างเดียว แต่โดยแท้ที่จริงมีตัวละครยิวอเมริกันอยู่เบื้องหลังด้วยไม่น้อย

สงครามโลกครั้งที่ 2 รบกันนาน 6 ปีกับ 1 วัน สหรัฐฯเข้าร่วมสงครามตอนท้ายๆ รบชนะแล้วก็กลายเป็นมหาอำนาจ ความมั่งคั่งจากทั่วโลกไหลสู่แผ่นดินสหรัฐฯ

เศรษฐกิจสหรัฐฯและหลายประเทศในยุโรปตกต่ำ จีน รัสเซีย อินเดียกำลังผงาด โดยเฉพาะจีนมีขนาดเศรษฐกิจเบอร์ 2 รองจากสหรัฐฯ อินเดียเองก็มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าอังกฤษ อดีตเจ้าอาณานิคม

บรรยากาศหลายอย่างทำให้ชวนคิดถึงช่วงที่จะก่อให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 การรบพุ่งที่เกิดในช่วง 2-3 ปีมานี้ อาจจะมีบาง ประเทศ ‘ต้องสร้าง’ ให้เกิดสงครามในยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง และทะเลจีนใต้ เพื่อกดประเทศที่กำลังมีเศรษฐกิจดี และเพื่อให้ความมั่งคั่งจำนวนมากมายมหาศาลจากการขายอาวุธไหลไปสหรัฐฯ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com

คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม