10 ปีที่แล้ว สถานการณ์ผู้ลี้ภัยในยุโรปยังไม่แรงขนาดนี้ พวกเราตระเวนเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน นอร์เวย์ ฯลฯ ไม่ได้ไปครั้งเดียว แต่ไปหลายครั้งในหลายภารกิจ บางภารกิจก็เป็นการถ่ายทำสารคดี สิ่งหนึ่งซึ่งผู้คนทางแถบโน้นเผชิญก็คือความขัดแย้งรุนแรงระหว่างคนที่มีภูมิหลังทางการเติบโตและทางศาสนาที่ต่างกัน

รัฐบาลยุโรปรับผู้ลี้ภัยด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม และด้วยความคิดที่ว่าคนที่พาครอบครัวออกนอกประเทศได้ย่อมมีศักยภาพ หากรับไวอนาคตก็จะกลายเป็นพลเมืองที่มีศักยภาพ

ต่อมามีปัญหาอาชญากรรม ความขัดแย้งทางศาสนาเกิดขึ้นบานเบอะเยอะแยะ รัฐแก้ไขปัญหาได้ยาก ไหนจะโดนประท้วงจากระบบพวก มีอะไรนิดหน่อยก็มาประท้วงกันเป็นร้อยเป็นพัน คนยุโรปเริ่มอึดอัด ถึงขนาดต้องจ้างให้ออกนอกประเทศกันแล้ว

12 กันยายน 2024 รัฐบาลสวีเดนโผล่หน้าออกมาแถลงว่ายินดีจะจ่ายเงิน 3.5 แสนโครนา (3.4 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.13 ล้านบาท) เพื่อที่จะขอความเมตตากรุณาอนุเคราะห์ผู้ลี้ภัยให้เดินทางกลับไปบ้านเกิดเมืองนอนของพวกท่าน

แต่ก็มีบางพวกที่บอกว่าการเสนอเงินเพื่อเป็นแรงจูงใจให้เดินทางกลับไปสู่บ้านเกิดเมืองนอนของตนเองเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ผู้คนสองจิตสองใจ ใจหนึ่งก็อยากอยู่สวีเดนเพื่อลงหลักปักฐานชีวิตใหม่ที่นี่ อีกใจหนึ่งก็อยากได้เงิน

สวีเดนมีประชากรเพียง 10.6 ล้านคน แต่มีผู้ลี้ภัยมากถึง 2.5 แสนคน อันนี้เป็นตัวเลขเมื่อ ค.ศ.2023 ตัวเลขปัจจุบันน่าจะมีผู้ลี้ภัยมากกว่านี้เยอะ ไม่ใช่เฉพาะสวีเดนที่เอาเงินใส่พานไปประเคนให้ผู้ลี้ภัยเพื่อขอให้เดินทางกลับภูมิลำเนาดั้งเดิม เดนมาร์กเป็นอีกประเทศหนึ่งซึ่งเสนอเงินและประโยชน์ให้ผู้ลี้ภัยเดินทางออกนอกแผ่นดินเดนมาร์ก

การเข้ามาในดินแดนของสหภาพยุโรปชาติใดชาติหนึ่งก็สามารถเดินทางต่อไปในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปชาติอื่นได้ โดยที่ไม่มีการตรวจเช็กตามพรมแดนอีก ทำให้มีขบวนการหากินพาคนเข้ามาในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปรอบนอก หลังจากนั้นก็พากันเดินทางไปยังประเทศที่มีสิทธิประโยชน์ให้ผู้ลี้ภัยมากมาถึงก็ได้รับเงินเดือนโดยที่ไม่ต้องทำงาน ซึ่งสวัสดิการเหล่านี้ผู้ลี้ภัยไม่เคยได้รับในประเทศของตนเองมาก่อน

...

7 เดือนแรกของ ค.ศ.2024 ก็มีตัวเลขผู้ลี้ภัยเข้ามาในเยอรมนีแตะอยู่ที่ 5 หมื่นคน จำนวนหนึ่งเข้ามาแล้วก็สร้างปัญหา เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ชาวซีเรียวัย 26 ปีมาทำเรื่องขอลี้ภัย พอถึงเดือนสิงหาคม 2024 ซีเรียคนนี้ใช้มีดไล่แทงผู้คนในเทศกาลที่จัดที่เมืองโซลิงเกน ทำให้มีคนตาย 3 คน บาดเจ็บ 8 คน

นโยบายรับคนต่างชาติเข้ามาอยู่ในประเทศเป็นดาบสองคม ด้านหนึ่งก็อาจจะมาเติมเต็มในเรื่องทรัพยากรมนุษย์ที่จะเข้ามาทำงาน เช่น งานก่อสร้าง ตัดผม ช่างฝีมือต่างๆ งานในโรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯ แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นการสร้างปัญหาให้กับสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้มาใหม่นับถือคนละศาสนากับคนท้องถิ่น ซึ่งเรื่องศาสนาไม่มีใครยอมใครดอกครับ ความขัดแย้งทางศาสนานำไปสู่สงครามกลางเมืองได้อย่างง่ายดาย

เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปยังมีปัญหาคอร์รัปชันกันน้อย นึกถึงเจ้าหน้าที่ในหลายประเทศที่รับสตางค์คนต่างชาติให้เข้ามาอยู่ในประเทศด้วยการช่วยให้จดทะเบียนสมรสปลอมบ้าง สวมบัตรคนตายเพื่อทำบัตรประชาชนและพาสปอร์ต จดทะเบียนบริษัทโดยใช้นอมินี ยอมให้มีการทำธุรกิจโดยจ่ายเป็นรายเดือน ฯลฯ

เรื่องอย่างนี้จะเป็นปัญหาในอนาคต แม้ข้าราชการที่รับสตางค์จะตายกลายเป็นผีไปแล้ว แต่ปัญหาก็ยังคาอยู่ในสังคม เจ้าหน้าที่รัฐรุ่นใหม่ใช้ระเบียบและกฎหมายเข้าไปจัดการก็จะโดนกฎหมู่เล่นงาน

ทำอะไรแรงไปก็กลายเป็นประเด็นสิทธิมนุษยชน ทำให้เป็นแกะดำที่ไม่มีใครทำมาค้าขายหรือมาลงทุนด้วย เจ้าหน้าที่รับสตางค์แค่หลักแสน แต่สร้างหายนะให้กับประเทศมูลค่านับพันล้าน หมื่นล้าน แสนล้าน.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com 

คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม