นักบินนิวซีแลนด์ที่ถูกกลุ่มกบฏในจังหวัดปาปัว ของอินโดนีเซียจะตัวเอาไว้นานถึง 19 เดือน ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระแล้ว โดยมีสุขภาพแข็งแรงดี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายฟิลิป เมอร์เทนส์ นักบินชาวนิวซีแลนด์วัย 38 ปี ซึ่งถูกกลุ่มกบฏในจังหวัดปาปัว ของประเทศอินโดนีเซีย นานร่วม 19 เดือน ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระแล้ว เมื่อวันเสาร์ที่ 21 ก.ย. 2567 โดยทางการอินโดนีเซียกับนิวซีแลนด์ระบุว่า เขามีสุขภาพแข็งแรงดี

นายเมอร์เทนส์ ทำงานให้กับสายการบิน ซูซี แอร์ (Susi Air) ก่อนที่เขาจะถูกนักรบกบฏจากกองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติปาปัวตะวันตก (TPNPB) ลักพาตัวไปจากสนามบิน เอ็นดูกา ในจังหวัดปาปัว เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2566 โดยในตอนนั้น นายเมอร์เทนส์กำลังทำหน้าที่ขนส่งเสบียงทางอากาศ ให้แก่ชุมชนห่างไกล

กองกำลังเฉพาะกิจร่วมระหว่างตำรวจและกองทัพอินโดนีเซีย ไปรับตัวนายเมอร์เทนส์ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขตเอ็นดูกา เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ ก่อนจะพาเขาไปตรวจร่างกายและสุขภาพจิต จากนั้นจึงโดยสารเครื่องบินไปยังเมืองทิมิกา ในจังหวัดปาปัว

“วันนี้ ผมเป็นอิสระแล้ว ผมมีความสุขมากที่ในไม่ช้า ผมจะได้กลับบ้านและพบกับครอบครัวของผม” นายเมอร์เทนส์บอกกับผู้สื่อข่าวในเมืองทิมิกา “ต้องขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือผมในวันนี้ ผมจึงออกมาได้อย่างปลอดภัยและแข็งแรง”

ด้านนายวินสตัน ปีเตอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของนิวซีแลนด์ กล่าวว่า นายเมอร์เทนส์ปลอดภัยและสบายดี และได้พูดคุยกับครอบครัวแล้ว “ข่าวนี้ทำให้เพื่อนๆ และบุคคลอันเป็นที่รักของเขาโล่งใจเป็นอย่างมากทีเดียว”

ทั้งนี้ การปล่อยตัวนายเมอร์เทนส์เกิดขึ้น หลังจากรัฐบาลนิวซีแลนด์กับอินโดนีเซียพยายามใช้มาตรการทางการทูตอย่างเข้มข้น โดยนายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียยืนยันว่า จาการ์ตาช่วยเหลือนายเมอร์เทนส์อย่างปลอดภัยผ่านการเจรจา ไม่ใช่กำลัง

...

นายวิโดโดไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของการเจรจา แต่ก่อนหน้านี้ กลุ่ม TPNPB เรียกร้องให้อินโดนีเซียยอมรับความเป็นเอกราชของจังหวัดปาปัว แลกกับการปล่อยตัวนายเมอร์เทนส์ และถึงขั้นเคยขู่สังหารนักบินรายนี้ หากการเจรจาไม่เกิดขึ้น และเมื่อเดือนเมษายน กลุ่มกบฏลอบโจมตีทหารอินโดนีเซียที่กำลังค้นหานายเมอร์เทนส์ จนมีผู้เสียชีวิต 1 ศพด้วย

จนถึงตอนนี้ TPNPB ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการปล่อยตัวนายเมอร์เทนส์แต่อย่างใด

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cna