ตำรวจโปรตุเกสจับกุมผู้ต้องสงสัย 14 ราย จงใจจุดไฟป่าบางจุด จากทั้งหมดที่กำลังลุกไหม้อยู่ทั่วประเทศ เพื่อหาผลประโยชน์ให้แก่ตัวเอง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 19 ก.ย. 2567 ว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจของโปรตุเกสดำเนินการจับกุมผู้ต้องสงสัยวางเพลิง 14 คน ที่อาจเป็นผู้จุดไฟจนทำให้เกิดไฟป่าบางจุด จากทั้งหมดหลายสิบจุดซึ่งกำลังลุกไหม้อยู่ทั่วประเทศในตอนนี้ และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ศพ บ้านเรือนถูกทำลายจำนวนมาก

นายกรัฐมนตรี ลูอิส มอนเตเนโกร แห่งโปรตุเกสให้คำมั่นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า จะมีมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด ต่อการก่ออาชญากรรมที่กระทำเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง

ด้าน ศ.ซัลวาดอร์ ปินโญ่ เฟร์เรรา เด อัลเมดา ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย ลูโซโฟนา ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันพลเรือน บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า มีสัญญาณของการก่ออาชญากรรมเข้มข้นมาก เพราะไฟป่าหลายจุดเริ่มขึ้นในตอนกลางคืน และมันแปลกมากที่เกิดไฟป่าหลายจุดขนาดนี้ และแต่ละจุดก็กระจัดกระจายกันมากเหลือเกิน

ขณะที่นาย อันเดร อินาซิโอ นักวิจัยและนักอาชญาวิทยา กล่าวว่า การวางเพลิงน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้สถานการณ์ด้านสภาพอากาศเลวร้ายลงอีก โดยที่ผ่านมาป่าในโปรตุเกสมีสภาพแห่งอยู่แล้ว และมีลมแรงมาก ถึงแม้ว่าไฟป่าในตอนแรกๆ อาจเป็นอุบัติเหตุก็ตาม

“ไฟป่าแห่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงรุ่งสาง ไม่ได้เริ่มขึ้นด้วยตัวมันเอง และนายกรัฐมนตรีช่วยพวกเราด้วยการบอกว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่” นายอินาซิโกกล่าว โดยคาดว่า ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เช่นการซื้อไม้หรือที่ดินที่ถูกเผาในราคาถูกลง เป็นหนึ่งในเหตุผลทำให้คนจงใจวางเพลิง นอกจากนั้นยังมีเหตุผลด้านสุขภาพจิตด้วย

หนึ่งในกรณีศึกษาคือ “ไฟป่าที่โปรตุเกสในปี 2560” แสดงให้เห็นว่า เกือบ 36% ของไฟป่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นเดือนตุลาคม ซึ่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 45 ศพ มีสาเหตุจากการวางเพลิง และสาเหตุอีกอย่างคือ การใช้ไฟอย่างปล่อยปละละเลย มีเปอร์เซ็นต์เกือบจะเท่าการวางเพลิง

...

ผลการศึกษาในปี 2562 โดย เจสซิกา รอลโญ และ คริสตินา โซเอโร นักวิจัยชาวโปรตุเกส ซึ่งศึกษาพฤติกรรมของมือเพลิง 260 คน โดยกว่า 90% เป็นผู้ชาย พบว่า สิ่งที่ผลักดันให้พวกเขาลงมือจุดไฟคือ ความโกรธและความต้องการแก้แค้น ขณะที่ราว 27% ใช้การวางเพลิงเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์แก่ตัวเอง

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cna