ขณะที่เขียนเปิดฟ้าส่องโลกรับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพ สำนักต่างๆ ประเมินว่า ความนิยมของนางกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเด็มโมแครต ที่จะเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 มีคะแนนนำนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ทราบว่านายทรัมป์รู้ตัวและเริ่มแขยงแขงขนนางแฮร์ริส ถึงขนาดปฏิเสธการดีเบตกับนางแฮร์ริส ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติของผู้สมัครประธานาธิบดีของ 2 พรรคใหญ่ที่ทำมาตั้งแต่ในอดีต

นางแฮร์ริสไม่ใช่ม้าตัวเดิมที่พรรคเด็มโมแครตจะปล่อยให้ไปลงสนามสู้กับนายทรัมป์ ทว่าม้าตัวเดิมคือนายไบเดน แกเฒ่าชะแร แก่ชรา ได้หน้าลืมหลัง ขืนพวกเด็มโมแครตเข็นขึ้นมาสู้กับม้ารีพับลิกันอย่างนายทรัมป์ มีแนวโน้มว่าจะแพ้แน่ สู้เอาเบอร์สดๆซิงๆ อย่างแฮร์ริส คนที่หัวเราะอร่อย (แม้แต่วลาดิมีร์ ปูติน ยังชม) ขึ้นไป ลุยดีกว่า

ครั้งแรกที่ได้ยินข่าวว่านางแฮร์ริสจะเป็นคู่ต่อสู้ นายทรัมป์ น้ำลายห้อยย้อยเลอะเทอะเปรอะคาง คิดว่าหวานหมูประตูชัย 20 มกราคม 2025 ข้าฯจะได้สาบานตนเป็นประธานาธิบดีอีกสมัยหนึ่งแน่

แต่ผู้อ่านท่านที่เคารพ พฤติกรรมของผู้บริโภคประธานาธิบดีของสหรัฐฯเปลี่ยนไป ผู้คนเริ่มกลัวผู้นำที่บ้าระห่ำนำขบวนท้าตีท้าต่อย กับผู้คนไปทั้งโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลัวการที่จะมีสงครามการค้ากับจีนอีกรอบ

ยังไม่ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ทรัมป์ก็ตะโกนก้องร้องบอกไปทั้งโลก ว่า อ้า ข้าจะขึ้นภาษีสินค้าขาเข้าที่พวกเอ็งผลิต แถมยังขู่ว่า อ้า ประเทศหน้าไหนก็ตามที่ไม่ใช้ดอลลาร์สหรัฐฯในการทำมาค้าขายจะโดนสหรัฐฯทุบแย่แน่นอน

ถ้าเป็นสมัยก่อนตอนโน้น คนอเมริกันก็คงยิ้มแย้มแจ่มใสชไนเดอร์ อ้า ท่านผู้นำเก่ง อ้า ท่านผู้นำยอดเยี่ยมกระเทียมดอง ทว่า ผู้อ่านท่านผู้เจริญ โซเชียลมีเดียที่ไหลไปแทรกทุกตรอกซอกมุมของโลก ทำให้สหรัฐฯไม่สามารถจะกุมอำนาจและปกครองโลกได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหมือนก่อน

...

สมัยก่อนตอนโน้น แค่ประธานาธิบดีสหรัฐฯชำเลืองหางตาซ้ายไปที่สื่อใหญ่อย่าง The New York Times หรือ The Washington Post หรือเรียกผู้บริหาร CNN มาดีดหู อู ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่รัฐบาลสหรัฐฯต้องการแล้ว

สมัยนั้นพวกสื่อต่างๆทั้งโลก เช่น The Sun, The Global and Mail, AP, UPI, Reuter, AFP, EFE ก็รากงอกลอกข่าวกันใหญ่ อ้า ทว่าใน ค.ศ.2024 ไม่เหมือนเดิมแล้วครับ เอ็งทำข้า ข้าก็ทำเอ็ง เอ็งขึ้นภาษีข้า ข้าก็ขึ้นภาษีเอ็ง นโยบายหลายอย่างทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกงอหงิกหงอยเป็นหอยแครงถูกลวก

เสาร์ 7 กันยายน 2024 ทรัมป์ไปปราศรัยหาเสียงที่รัฐวิสคอนซิน พอจับไมค์ได้ก็ตะโกนก้องร้องกร้าวว่า อ้า ข้าฯ จะรักษาสถานะของดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองของโลกโลกามหาพิภพ พร้อมทั้งสร้างความกลัวให้กับผู้ลงคะแนนว่า ขณะนี้ดอลลาร์กำลังถูกล้อมกรอบโจมตีอย่างหนัก มีมากมายหลายชาติหันไปใช้เงินสกุลอื่นในการชำระทางการค้า ถ้าไม่เลือกข้าพเจ้า แล้วท่านจะไปเลือกใครที่จะสามารถต่อกรกับไอ้พวกนั้นได้

“เอ็งทิ้งดอลลาร์ เอ็งก็หมดปัญญามาทำธุรกิจกับสหรัฐฯ เพราะเราจะรีดภาษีสินค้าของเอ็งในระดับ 100%”

แต่ก่อนง่อนชะไร คนฟังก็ต้องชูจั๊กกระแร้เชียร์ทรัมป์ แต่ว่าสมัยนี้ มีแต่คนก้มหน้า อนิจจา เศรษฐกิจอเมริกาจะเป็นอย่างไร ถ้าทรัมป์เป็นประธานาธิบดี โอย น่ากลัว น่ากลัวมากถึงมากที่สุดในโลก

ทรัมป์เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่โลกในขณะนั้นต้องการคนกล้าบ้าบิ่นกระถินคั่ว ปลุกระดมความเป็นชาตินิยมให้จุติในสมองของประชาชน แต่สมัยนี้ไม่ใช่แล้วครับ

ทรัมป์ขึ้นมา สงครามรัสเซีย-อูเครนอาจจะสงบจบลง ทว่าสงครามการค้าอาจจะมาแทนที่

สงครามรัสเซีย-อูเครนยังเกิดขึ้นไกลแผ่นดินสหรัฐฯ ทว่า ผลของสงครามการค้ามันมาถึงหน้าบ้าน แทรกเข้าไปในรูประตูบ้าน แม้แต่กำลังนั่งอุจจาระปัสสาวะก็กระทบ

ความนิยมของทรัมป์จึงเริ่มร่วงรูดเป็นตูดหมึก.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย

คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม