ยูเครนส่งโดรนโจมตีกรุงมอสโกของรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุด ทำให้อาคารบ้านเรือนเสียหาย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ศพ ขณะที่สนามบินหลายแห่งต้องหยุดให้บริการ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ย. 2567 ยูเครนส่งโดรนโจมตีกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มบุกโจมตียูเครนเมื่อ 2 ปีก่อน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ศพ อาคารบ้านเรือนเสียหายหลายสิบหลัง และทำให้สนามบินรอบกรุงมอสโกต้องยกเลิกหรือปรับเส้นทางการบิน

กระทรวงกลาโหมของรัสเซียระบุว่า ระบบป้องกันทางอากาศของพวกเขาทำลายโดรนจู่โจมของยูเคนได้อย่างน้อย 20 ลำในแคว้นมอสโก และทำลายได้อีก 124 ลำใน 8 แคว้นบริเวณชายแดน

อย่างไรก็ตาม นายอันเดร โวโรบียอฟ ผู้ว่าการแคว้นมอสโก ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวทำให้ตึกอพาร์ตเมนต์สูงอย่างน้อย 2 แห่งในเขตราเมนสโกเย ได้รับความเสียหาย และเกิดไฟไหม้หลายห้อง ทำให้หญิงผู้อยู่อาศัยวัย 46 ปี เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน และอีก 43 คนต้องอพยพไปอาศัยที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว

...

ขณะที่สื่อท้องถิ่นของรัสเซียรายงานว่า การโจมตีทำให้สนามบิน 4 แห่งในแคว้นมอสโกต้องหยุดให้บริการ และเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศกว่า 50 เที่ยวบิน ต้องถูกยกเลิกหรือเปลี่ยนเส้นทางการบิน

แต่ “รอสซาเวียตเซีย” (Rosaviatsia) สำนักงานการบินรัสเซีย ยืนยันในเช้าวันอังคารว่า สนามบิน 3 แห่งได้แก่ โดโมเดโดโว, ซูคอฟสกี และ วนูโคโว กลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งแล้ว

ทั้งนี้ ฝ่ายยูเครนยังไม่ออกมาแสดงความเห็นใดๆ เกี่ยวกับการโจมตีที่เกิดขึ้น แต่นายดีมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลเครมลินของรัสเซียกล่าวว่า การโจมตีนี้แสดงให้เห็นว่า ยูเครนเป็นศัตรูของรัสเซีย

“เราต้องดำเนินปฏิบัติการทางทหารต่อไป เพื่อปกป้องตัวเองจากการโจมตีเช่นนี้ของรัฐบาลยูเครน” นายเปสคอฟกล่าว

อีกด้านหนึ่งบริเวณแนวหน้าฝั่งตะวันออก กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า กองทัพของพวกเขาสามารถยึดหมู่บ้านในแคว้นโดเนตสก์ได้อีก 3 แห่งในวันอังคาร และยึดเมืองคราสโนโฮริฟกา (Krasnohorivka) ได้ด้วย

ขณะเดียวกัน กองทัพอากาศยูเครนระบุผ่านแอป เทเลแกรม ว่า รัสเซียส่งโดรนจู่โจม “ชาเฮด” 46 ลำมาโจมตีในหลายแคว้น รวมถึงแคว้นเคียฟ, โอเดสซา, เคอร์ซอน, ซูมี, คาร์คิฟ และโปลโตวา ในช่วงข้ามคืนวันจันทร์เข้าสู่วันอังคาร โดยระบบป้องกันทางอากาศของพวกเขา ทำลายโดรนดังกล่าวได้ 38 ลำ

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cnnbbc