จีนอพยพประชาชนกว่า 570,000 คน หนีพายุไต้ฝุ่นยางิ ที่ทวีความรุนแรงเป็นระดับ 5 ขณะพัดขึ้นฝั่งครั้งที่ 2 ในมณฑลกวางตุ้ง ขณะที่ เวียดนามเตรียมรับมือ ด้านกต.เตือนคนไทยใช้ความระมัดระวังในการเดินทางในจีนและติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
วันที่ 7 กันยายน 2567 เว็บไซต์ข่าวเซี่ยงไฮ้ เดลี รายงานว่า ทางการจีนเร่งอพยพประชาชนกว่า 570,000 คนในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของประเทศ ในขณะที่พายุไต้ฝุ่นยางิ (Yagi) ทวีความรุนแรงเป็นไต้ฝุ่นระดับ 5 หรือเทียบเท่าซูเปอร์ไต้ฝุ่น ขณะพัดขึ้นฝั่งเป็นครั้งที่ 2 บริเวณแผ่นดินใหญ่ของจีนที่เมืองซูเหวิน ทางใต้สุดของมณฑลกวางตุ้ง ด้วยความเร็วลมประมาณ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เบื้องต้นมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย
ก่อนหน้านี้ ซูเปอร์ไต้ฝุ่นยางิ พัดถล่มขึ้นฝั่งที่เมืองเหวินชาง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะไห่หนาน ด้วยความเร็วลม 223 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันศุกร์ 6 กันยายน อิทธิพลของพายุลูกนี้ทำให้มีฝนตกหนัก และลมกระโชกแรง โดยมีคำสั่งอพยพประชาชนบนเกาะไห่หนานกว่า 400,000 คนไปยังพื้นที่ปลอดภัย ขณะที่รถไฟ เรือ และเที่ยวบินถูกระงับ และโรงเรียนประกาศหยุดการเรียนการสอน
สื่อท้องถิ่นของจีนรายงานว่า ไต้ฝุ่นยางิ เป็นพายุลูกใหญ่ที่มีความรุนแรงสูงสุด ที่เคยพัดถล่มเกาะไห่หนานนับตั้งแต่พายุรามสูร เมื่อปี 2557 ในครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 46 ศพ
ส่วนที่เวียดนาม ศูนย์พยากรณ์อุทกวิทยาแห่งชาติเวียดนามได้แจ้งเตือนการพัดเข้าของพายุยางิ ในบริเวณภาคเหนือและภาคกลางของประเทศ ด้วยระดับซูเปอร์ไต้ฝุ่น ซึ่งจะทำให้ฝนตกหนักถึงวันที่ 8 ก.ย. ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนเตรียมรับมือในกรณีเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม ลมกระโชกแรง และคลื่นสูงในทะเล
...
ทางการเวียดนามระบุว่าได้เตรียมรับมือกับพายุ แผนอพยพ และศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้ว อีกทั้งท่าอากาศยาน 4 แห่ง ได้แก่ ที่กรุงฮานอย จ.กว๋างนิญ จ.ไฮฟอง และ จ.ทัญฮว้า จะปิดให้บริการชั่วคราวบางช่วงของวันที่ 7 ก.ย. 2567
ก่อนหน้านี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่องพายุยางิ ฉบับที่ 14 (173/2567) โดยระบุว่า เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 6 ก.ย. 2567 พายุไต้ฝุ่นยางิ บริเวณเกาะไหหลำ หรือไห่หนาน มีศูนย์กลางทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม ประมาณ 460 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 165 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 7 ก.ย. 2567 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และพายุดีเปรสชันตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมาก กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 7-8 ก.ย. 2567
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงฮานอย ของเวียดนาม และ สถานกงสุลใหญ่ ประจำนครกว่างโจว ขอให้ชุมชนไทยในเวียดนามและจีนใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยและคำแนะนำที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด.