หน่วยงานความมั่นคงของจีน เตือนบรรดานักศึกษาไม่ให้ตกอยู่ใน "กับดักความรัก" ที่มาในคราบของ "ผู้ชายหล่อ" หรือ "ผู้หญิงสวย" ที่อาจล่อลวงให้พวกเขาช่วยล้วงข้อมูลให้ต่างชาติ

หน่วยงานความมั่นคงของจีน เตือนนักศึกษาที่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ไม่ให้ตกอยู่ใน "กับดักความรัก" ที่มาในคราบของ "ผู้ชายหล่อ" หรือ "ผู้หญิงสวย" ที่อาจล่อลวงให้พวกเขาช่วยล้วงข้อมูลให้ต่างชาติ

กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีน ได้เผยแพร่ข้อกล่าวหาว่า สายลับต่างชาติกำลังพยายามล่อลวงชาวจีนที่จงรักภักดีให้ทรยศต่อประเทศของตน โดยมักจะใช้วิธีการที่หยาบคายและแปลกประหลาด นับตั้งแต่เปิดบัญชีวีแชต (WeChat) เมื่อปีที่แล้ว กระทรวงฯ ได้เตือนว่า สายลับต่างชาติสามารถปลอมตัวได้หลายรูปแบบ "และสามารถเปลี่ยนเพศได้" พร้อมเรียกร้องให้พลเมือง "สร้างแนวป้องกัน 1,400 ล้านแนว" เพื่อต่อต้านภัยคุกคามต่อประเทศ และเมื่อวันพุธที่ผ่านมา กระทรวงฯ กล่าวหาสายลับต่างประเทศ ว่าใช้ "กับดักความรัก" เพื่อล่อลวงนักศึกษาจีน

กระทรวงฯ ระบุว่า สายลับต่างชาติใช้โฆษณาหางานและแม้แต่การหาคู่ทางออนไลน์เพื่อ "ล่อลวงและบังคับ" นักศึกษา โดยเฉพาะนักศึกษาที่สามารถเข้าถึง "ข้อมูลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ละเอียดอ่อน" เพื่อให้ส่งมอบข้อมูลที่เป็นความลับ รายงานเตือนว่า "พวกเขาอาจปลอมตัวเป็น 'ผู้ชายหล่อ' หรือ 'ผู้หญิงสวย' และนำนักศึกษาวัยรุ่นเข้าสู่ 'กับดักความรัก'" แต่ไม่ได้ระบุว่าประเทศใดอยู่เบื้องหลังแผนการดังกล่าว

นอกจากนั้น ยังเตือนว่าสายลับอาจปลอมตัวเป็นนักวิชาการมหาวิทยาลัย นักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ หรือที่ปรึกษา เพื่อล่อลวงนักศึกษาที่ขัดสน ด้วยสิ่งที่เรียกว่า "การแทรกซึมแบบกำหนดเป้าหมาย"

ในเดือนนี้กระทรวงฯ ได้ออกคำเตือนประชาชนให้ระวัง "หมาป่าในคราบแกะ" หรือสายลับต่างชาติที่แสร้งทำเป็น "ผู้ใจบุญ" และในเดือนมิถุนายน กระทรวงฯ กล่าวหาหน่วยข่าวกรอง MI6 ของอังกฤษ ว่าจ้างคู่รักที่ทำงานให้กับรัฐบาลกลางเพื่อสอดแนมให้กับอังกฤษ

...

จีนและชาติมหาอำนาจตะวันตก ต่างกล่าวหากันเรื่องการสอดแนมมาอย่างยาวนาน แต่เพิ่งจะเริ่มเปิดเผยรายละเอียดของกรณีที่ถูกกล่าวหาแต่ละกรณีเมื่อไม่นานนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคม เจ้าหน้าที่สืบสวนได้เข้าค้นสำนักงานในกรุงบรัสเซลส์ของสมาชิกรัฐสภาเยอรมนี ที่ต้องสงสัยว่าเป็นสายลับให้กับจีน และเมื่อวันที่ 3 ก.ย. อดีตเจ้าหน้าที่ที่เคยทำงานเป็นผู้ช่วยผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ถูกจับกุมในข้อหาทำงานเป็นสายลับให้กับจีน เพื่อแลกกับเงินหลายล้านดอลลาร์.

ที่มา CNA

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign