เจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้วัคซีนต้านโปลิโอแก้เด็กๆ ในฉนวนกาซาเกิดเป้าหมายในเฟสแรกไปแล้ว โดยองค์กรอนามัยโลกย้ำว่า ต้องให้วัคซีนครอบคลุมเด็กอย่างน้อย 90%

เมื่อวันอังคารที่ 3 ก.ย. 2567 ดร.ริค พีเพอร์คอร์น ตัวแทนองค์การอนามัยโลกในฉนวนกาซาเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ให้วัคซีนต้านโปลิโอแก่เด็กอายุไม่เกิน 10 ขวบในภาคกลางของกาซาแล้วถึง 161,030 คน เกินจากเป้าหมายเฟสแรกที่ 156,500 คนไปแล้ว หลังจากเริ่มแคมเปญได้เพียง 2 วันเท่านั้น

ดร.พีเพอร์คอร์นระบุว่า สาเหตุที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะ พวกเขาประเมินจำนวนประชากรที่แออัดกันภาคกลางของกาซาต่ำเกินไป

ทั้งนี้ WHO ตั้งเป้าจะให้วัคซีนต้านโปลิโอแก่เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีในฉนวนกาซา ประมาณ 640,000 คน โดยอิสราเอลและกลุ่มฮามาสตกลงหยุดการต่อสู้ในหลายพื้นที่เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่เวลา 6.00น. ถึง 15.00 น.ของแต่ละวัน เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้วัคซีนป้องกันเชื้อโปลิโอแก่เด็กๆ หลังมีการพบเด็กทารกวัย 10 เดือนเป็นอัมพาตบางส่วนเพราะเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้ เป็นรายแรกในกาซาในรอบ 25 ปี

ตามแผนที่วางเอาไว้ การให้วัคซีนเฟสแรกระยะเวลา 4 วัน เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในภาคกลางของกาซา ที่เมือง เดียร์ อัล-บาลาห์ และข่านยูนิส

จากนั้นในเฟสที่ 2 ระยะเวลา 4 วัน จะเริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 5 ก.ย. นี้ เจ้าหน้าที่จะย้ายไปให้วัคซีนในภาคใต้ของกาซา ที่เมืองราฟาห์ โดยตั้งเป้าให้วัคซีนแก่เด็กๆ ราว 340,000 ตามด้วยเฟส 3 ในภาคเหนือ ที่เมืองกาซา ซิตี้ ซึ่งพวกเขาจะให้วัคซีนแก่เด็กประมาณ 150,000 คน

ดร.พีเพอร์คอร์นระบุว่า การหยุดต่อสู้ของทั้งฝ่ายอิสราเอลและฮามาสยังเป็นได้ด้วยดีจนถึงตอนนี้ แต่ยังเหลือเวลาอีก 10 วันกว่าการให้วัคซีนรอบแรกจะจบลง และหลังจากนี้อีก 4 สัปดาห์ เด็กๆ ที่ได้รับวัคซีนรอบแรก จะต้องรับวัคซีนซ้ำเป็นรอบที่ 2 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

...

ดร.พีเพอร์คอร์นบอกด้วยว่า ในภาคใต้ของกาซา มีเด็กๆ จำนวนหนึ่งที่เชื่อว่าอาศัยอยู่นอกพื้นที่หยุดการต่อสู้ที่ตกลงกันไว้ ซึ่งพวกเขากำลังเจรจากับทั้งอิสราเอลและกลุ่มฮามาส เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงเด็กกลุ่มนี้ได้

เขาย้ำอีกว่า พวกเขาต้องให้วัคซีนแก่เด็กๆ ให้ครอบคลุมอย่างน้อยที่สุด 90% เพื่อหยุดการติดต่อของเชื้อโปลิโอในกาซา และหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อในระดับท้องถิ่น หรือระดับนานาชาติไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc