สหราชอาณาจักรระงับใบอนุญาตส่งออกอุปกรณ์ทางทหารแก่อิสราเอล จำนวน 30 รายการ แต่ย้ำว่า นี่ไม่ใช่การห้ามซื้อขายอาวุธ และยังสนับสนุนการป้องกันตัวเองของอิสราเอล

เมื่อวันจันทร์ที่ 2 ก.ย. 2567 นาย เดวิด แลมมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักร ประกาศว่า หลังจากทบทวนเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศของอิสราเอล ในปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซา สหราชอาณาจักรจึงตัดสินใจระงับใบอนุญาตส่งออกอุปกรณ์ทางทหารให้พวกเขาจำนวน 30 รายการ

ใบอนุญาตทั้ง 30 รายการ (จากที่มีทั้งหมดประมาณ 350 รายการ) รวมถึง ส่วนประกอบเครื่องบินรบ, เฮลิคอปเตอร์, โดรน กับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการระบุเป้าหมายภาคพื้นดิน โดยรัฐบาล UK สรุปว่า มีความเสี่ยงอย่างชัดเจน ที่สิ่งของเหล่านี้ที่ส่งออกให้อิสราเอลไปแล้ว อาจถูกใช้ในการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

เจ้าหน้าที่ UK ย้ำด้วยว่า นี่ไม่ใช่การห้ามซื้อขายอาวุธ และการประเมินของรัฐบาลไม่ออกแบบมาเพื่อด่วนตัดสิน ผลลัพธ์การทำงานของศาลระหว่างประเทศอย่าง ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) และ ศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ (ICC)

อย่างไรก็ตาม นายแลมมีกล่าวว่า การระงับใบอนุญาตดังกล่าวจะไม่สังผลกระทบในเชิงวุตถุแก่ความมั่นคงของอิสราเอล และ UK จะสนับสนุนสิทธิ์ของอิสราเอลในการป้องกันตนเอง ตามกฎหมายระหว่างประเทศต่อไป

ด้านนายอิสราเอล คัตซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของอิสราเอล ระบุในแถลงการณ์ว่า เขาผิดหวังในการตัดสินใจหลายอย่างของสหราชอาณาจักรในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการระงับใบอนุญาตส่งออกอาวุธ ซึ่ เป็นการส่งข้อความที่เป็นปัญหาอย่างมากแก่กลุ่มฮามาสและอิหร่าน

นายคัตซ์บอกด้วยว่า เขาผิดหวังในการกระทำของ UK ที่ศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ, จุดยืนของ UK เกี่ยวกับ UMRWA และแถลงการณ์ของสหราชอาณาจักรในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อไม่นานมานี้

...

เขาย้ำด้วยว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ และมีระบบตุลาการที่น่าเคารพและเสรีเป็นของตัวเอง

ขณะที่นาย โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอิสราเอล ระบุผ่าน X ว่า เขารู้สึกท้อใจอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจของสหราชอาณาจักร ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อิสราเอลกำลังต่อสู้ในสงครามถึง 7 ด้าน และในเวลาที่พวกเขากำลังแสดงความอาลัยแก่ตัวประกัน 6 คน ที่ถูกกลุ่มฮามาสประหารชีวิตอย่างเลือดเย็น

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc