ชายชาวสิงคโปร์พยายามใส่ความเมียตัวเอง ด้วยการซุกซ่อนกัญชาในรถของเธอ เพื่อสร้างเงื่อนไขในการฟ้องหย่า แต่ถูกจับได้และเขาต้องเข้าไปนอนในคุกแทน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นาย ตัน เซียงหลง อายุ 37 ปี ถูกศาลตัดสินเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (29 ส.ค. 2567) ให้รับโทษจำคุก 3 ปี 10 เดือน ข้อหาครอบครองกัญชา หลังเขาก่อเหตุซุกซ่อนกัญชาก้อนเอาไว้ระหว่างที่นั่งผู้โดยสารในรถของภรรยาเพื่อให้ภรรยาโดนตั้งข้อหา ลักลอบขนยาเสพติด ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2566 โดยนายตันแต่งงานกับภรรยาในปี 2564 แต่แยกกันอยู่หลังผ่านไปปีเดียว แต่ทั้งคู่ยื่นเรื่องฟ้องหย่าไม่ได้ เพราะแต่งงานกันไม่ถึง 3 ปีตามที่กฎหมายสิงคโปร์กำหนด แต่นายตันเกิดหัวหมอ และเชื่อว่าเขาอาจได้รับการยกเว้นจากกฎหมายนี้ หากภรรยาของเขามีประวัติอาชญากรรม
ในข้อความเทเลแกรมที่เขาส่งคุยกับกิ๊กเมื่อปีก่อน นายตันระบุว่า เขาคิดแผน “อาชญากรรมสมบูรณ์แบบ” (perfect crime) เพื่อใส่ความภรรยาได้แล้ว
ต่อมาในวันที่ 16 ต.ค. 2566 นายตันซื้อกัญชาก้อนมาจากกรุ๊ปแชตในเทเลแกรม ก่อนที่เขาจะนำกัญชาก้อนนี้ ที่เขาเชื่อว่ามีน้ำหนัก 500 กรัม ไปซุกซ่อนไว้ในรถของภรรยาในวันถัดไป โดยไม่เอะใจเลยว่า ในรถของภรรยามีกล้องติดตั้งอยู่ ซึ่งมันส่งสัญญาณแจ้งไปยังโทรศัพท์มือถือของเธอว่า “เกิดการกระแทกขณะจอด”
เมื่อฝ่ายภรรยาตรวจสอบภาพถ่ายทอดสดจากกล้อง เธอก็เห็นสามีมาเดินวนอยู่รอบรถ เธอจึงแจ้งความจับเขาในข้อหาคุกคาม โดยในการสืบสวนเบื้องต้น ตำรวจพบกัญชาที่นายตันเอามาซุกซ่อนไว้ จึงจับกุมผู้เป็นภรรยาตามแผนของนายตัน
แต่ต่อมา เจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานที่เชื่อมโยงกัญชาก้อนนี้กับผู้เป็นภรรยา พวกเขาจึงเบนเป้าหมายไปยังนายตัน และจับกุมเขาcmo
...
คดีนี้ดำเนินมาจนถึงชั้นศาล โดยทนายความของนายตันพยายามโต้แย้งว่า ที่ลูกความของเขาทำลงไปเป็นผลจากโรคซึมเศร้า แต่ศาลไม่เชื่อ โดยอ้างคำวินิจฉัยของแพทย์หลายคน ซึ่งพบว่า นายตันไม่มีปัญหาสุขภาพจิตใดๆ เลย
แต่ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย เพราะสิ่งที่นายตันคิดว่าเป็นกัญชาหนักครึ่งกิโลกรัมนั้น เป็นกัญชาจริงๆ ไม่ถึงครึ่ง ส่วนที่เหลือเป็นเพียงวัสดุถมให้เต็มเท่านั้น ทำให้เขาถูกศาลตัดสินความผิดในข้อหาครอบครองยาเสพติดชนิดกัญชา ที่มีเพียงโทษจำคุก ไม่ใช่ข้อหาลักลอบขนยาเสพติด ซึ่งโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
โดยในเบื้องต้น ศาลให้นายตันจำคุก 5 ปี แต่ลดโทษให้เหลือ 3 ปี 10 เดือนเนื่องจากเขาให้ความร่วมมือกับการสืบสวน และยอมรับสารภาพความผิดตั้งแต่แรก
เอกสารของศาลระบุว่า นายตันมีเจตนาข่มขู่ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และต้องการทำให้เธอมีปัญหาทางกฎหมาย เพราะเขาเข้าใจเอาเองว่า ผู้เกี่ยวข้องรายนี้จะถูกจับกุมอย่างไม่ถูกต้อง และถูกตั้งข้อหาอาชญากรรมร้ายแรง หากแผนการของเขาประสบความสำเร็จ
ตอนนี้ ศาลกำลังพิจารณาว่า นายตันมีความฐานสร้างหลักฐานเท็จ ซึ่งเป็นขอกล่าวหาที่ 2 ที่เขาได้รับหรือไม่
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc