ศาลฮ่องกงตัดสินให้ 2 อดีตบรรณาธิการของสำนักข่าว สแตนด์ นิวส์ มีความผิดจริงข้อหายุยงปลุกปั่น นับเป็นครั้งแรกของฮ่องกงที่มีผู้สื่อข่าวถูกตัดสินความผิดในข้อหานี้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศาลฮ่องกงมีคำตัดสินในวันพฤหัสบดีที่ 29 ส.ค. 2567 ว่า นายชุง พุย-กวน และนายแพทริก แลม อดีตบรรณาธิการ ของสำนักข่าว “สแตนด์ นิวส์” (Stand News) ที่ตอนนี้ยุติกิจการไปแล้ว มีความผิดจริงในข้อหา สมคบคิดกันเผยแพร่บทความยุยงปลุกปั่น
นี่นับเป็นครั้งแรกที่มีนักข่าวถูกดำเนินคดีและถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหายุยงปลุกปั่นในฮ่องกง นับตั้งแต่อังกฤษคืนเกาะแห่งนี้ให้จีนในปี 2540 โดยมีโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี ซึ่งผู้พิพากษาจะประกาศบทลงโทษของทั้งสองในวันที่ 26 ก.ย.
ทั้งนี้ สแตนด์ นิวส์ เคยเป็นหนังสือพิมพ์ และสื่อออนไลน์ชั้นนำของฮ่องกง มีจุดขายเรื่องรายงานข่าวและแสดงความคิดเห็นเชิงวิพากษ์วิจารณ์ และมีบทบาทอย่างมากในการประท้วงใหญ่เรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงเมื่อปี 2562
อย่างไรก็ตาม ในปีต่อมา จีนออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติเพื่อควบคุมผู้เห็นต่าง และสำนักงานของ สแตนด์ นิวส์ ถูกตำรวจบุกตรวจค้น ในเดือนธันวาคม 2564 และถูกอายัดทรัพย์สินนำไปสู่การปิดตัวของ บริษัท “เบสต์ เพนซิล (ฮ่องกง) จำกัด” (Best Pencil) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ สแตนด์ นิวส์
นายชุง วัย 54 ปี กับนายแลม วัย 36 ปี และบริษัท เบสต์ เพนซิล ต่างถูกฟ้องร้องในข้อหา ร่วมกันเผยแพร่บทความยุยงปลุกปั่น โดยเชื่อมโยงกับบทความข่าวและคำวิจารณ์ 17 บทความที่เผยแพร่ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2563 ถึงเดือนธันวาคม 2564
นายชุงและนายแลมปฏิเสธข้อกล่าวหาทางหมด แต่ระหว่างการพิจารณาคดีซึ่งกินเวลาทั้งสิ้น 57 วัน น.ส.ลอรา อึ้ง อัยการฮ่องกง กล่าวหา สแตนด์ นิวส์ ว่า ทำตัวเป็นแพลตฟอร์มทางการเมืองเพื่อส่งเสริมแนวคิดผิดกฎหมาย และยุยงปลุกปั่นให้ผู้อ่านเกลียดชังรัฐบาลจีนและฮ่องกง
...
ส่วนผู้พิพากษา กว็อก ไว กิน (Kwok Wai-kin) ระบุในแถลงการณ์คำตัดสินว่า สแตนด์ นิวส์ กลายเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ บรรณาธิการของพวกเขาสนับสนุนการปกครองตนเองของฮ่องกง สื่อเจ้านี้ยังกลายเป็นเครื่องมือใส่ร้ายและทำลายชื่อเสียงรัฐบาลกลางกับรัฐบาลฮ่องกงด้วย
คำตัดสินของศาลฮ่องกงทำให้องค์กรสื่อระหว่างประเทศหลายองค์กร ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ เช่น น.ส.อเล็กซานดรา เบลาคอฟสกา ผู้จัดการภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกขององค์กรนักข่าวไร้พรมแดน (RSF) ระบุว่า คำตัดสินนี้เป็นการตั้งบรรทัดฐานที่อันตรายมาก และอาจถูกจีนใช้เพื่อหยุดยั้งการแสดงออกอย่างอิสระอื่นๆ
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign