ไนจีเรียเผชิญเหตุน้ำท่วมรุนแรงมานานหลายสัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 170 ศพ โดยเจ้าหน้าที่เตือนว่า น้ำจะไหลลงสู่ภาคกลางและภาคใต้ของประเทศในไม่ช้า

เมื่อวันอังคารที่ 27 ส.ค. 2567 สำนักงานจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติของไนจีเรีย (NEMA) บอกกับสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น ว่า เหตุน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศ ซึ่งดำเนินมานานหลายสัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 170 ศพ ในขณะที่มีผู้ประสบภัยต้องอพยพหนีน้ำท่วมมากกว่า 200,000 คน

นอกจากนั้น ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุน้ำท่วมครั้งนี้อีกเกือบ 2,000 คน สวนการเกษตรถูกทำลายไปกว่า 100,000 เฮกตาร์ (ราว 625,000 ไร่)

นายมันโซ เอเซเคียล โฆษกของ NEMA ระบุว่า ภาคเหนือเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมากที่สุด ส่วนพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ ยังคงมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำของแม่น้ำสายใหญ่ที่สุดของประเทศ 2 สาย ได้แก่ แม่น้ำไนเจอร์ กับแม่น้ำเบอนู เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

“รูปแบบของน้ำท่วมในไนจีเรียนั้น มักเริ่มขึ้นในภาคเหนือ ก่อนที่น้ำจะเคลื่อนตัวลงมาสู่ภาคกลางและภาคใต้” นายเอเซเคียลกล่าว “ภายในไม่กี่วันข้างหน้า พื้นที่ในภาคกลางจะได้เห็นน้ำท่วมแบบเดียวกันในไม่ช้า ก่อนที่มันจะเคลื่อนลงใต้”

ทั้งนี้ หลายพื้นที่ในไนจีเรียถูกน้ำท่วมเป็นประจำในช่วงฤดูฝน แต่นายเอเซเคียลระบุว่า ในปีนี้ พวกเขาเริ่มเห็นน้ำท่วมในจุดที่ปกติไม่ท่วมแล้ว โดยคาดว่าเป็นผลจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

ด้านนักสิ่งแวดล้อมในไนจีเรีย กล่าวโทษว่าที่ไนจีเรียต้องเผชิญน้ำท่วมเป็นประจำทุกปีนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโครงสร้างพื้นฐานด้านการระบายน้ำไม่ดี ขณะที่ทางการกล่าวโทษฝนที่ตกมากกว่าค่าเฉลี่ย กับน้ำที่ไหลมาจากเขื่อนลักโด (Lagdo) ในแคเมอรูน ว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดน้ำท่วมหนัก

...

เมื่อสัปดาห์ก่อน สำนักงานบริการข้อมูลด้านอุทกวิทยาของไนจีเรีย (NIHSA) เตือนว่า น้ำท่วมจากประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ไนเจอร์และมาลี จะไหลมาถึงไนจีเรียในที่สุด พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐต่างๆ ที่ตั้งอยู่ตามแนวแม่น้ำไนเจอร์ ให้เฝ้าสังเกตการณ์

ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไนจีเรีย (NIMET) ก็เตือนเช่นกันว่า มีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลันทั่วประเทศ

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cnn