เขียนถึง Vision for Thailand 2024 ของ คุณทักษิณ ชินวัตร ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย “นายกฯเงา” ของ คุณแพทองธาร ชินวัตร แล้ว ก็ต้องเขียนถึงวิสัยทัศน์ของนายกฯใหม่สิงคโปร์ นายลอว์เรนซ์ หว่อง ให้คนไทยได้อ่านกันบ้าง ลอว์ เรนซ์ หว่อง เพิ่งแสดงวิสัยทัศน์ครั้งแรกหลังจากที่ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯใน วันชาติสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมต้นเดือนนี้เอง
เนื้อหาทั้งหมดนี้มีเพื่อนฝูงสรุปย่อมาให้อย่างดี จะได้เห็นวิสัยทัศน์ของผู้นำสิงคโปร์คนใหม่ในภาพรวม เขาวาดภาพอนาคตสิงคโปร์ไว้อย่างไร
Lawrence wong นายกฯคนที่ 4 ของสิงคโปร์ ได้แสดงวิสัยทัศน์ถึง New Singapore Dream “ความฝันใหม่ของสิงคโปร์” ที่จะเป็น “อนาคตใหม่ของชาวสิงคโปร์” โดยการ Reset ประเทศสิงคโปร์ เพื่อให้ชาวสิงคโปร์ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันอย่างยุติธรรมที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้งด้าน สังคม เศรษฐกิจ และการศึกษา โดยจะมีการออกแบบนโยบายที่สามารถรองรับความท้าทายในโลกปัจจุบันและโลกในอนาคตได้
แตกต่างจาก Vision Thailand 2024 ของเราเหมือนฟ้ากับดิน
วิสัยทัศน์ที่สรุปย่อมาให้มีดังนี้ครับ 1.ประเทศมีภัยคุกคาม 3 อย่างที่ต้องรับมือ Geopolitics, Tech disruption และ Climate change 2.Roadmap ของสิงคโปร์ในอนาคต จะเน้นเรื่องเศรษฐกิจ ครอบครัว การศึกษา และที่อยู่อาศัย 3.สิงคโปร์จะเน้นเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ไม่เทหมดหน้าตักเพื่อการเติบโต 4.สิงคโปร์จะเน้นเรื่องความสามารถในการแข่งขัน (competitiveness) มากกว่า GDP ซึ่งรัฐจะต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อแข่งขันกับประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาที่ยกระดับขึ้นมา 5.เขาเน้นว่า สิงคโปร์คือประเทศสำหรับธุรกิจระดับโลก แต่พยายามสนับสนุนให้ SME ของประเทศสามารถแข่งขันได้ ด้วยการลดขั้นตอนและระเบียบให้มากที่สุด 6.รัฐบาลจะออกโปรแกรม SkillsFuture ในปีหน้า เพื่อ Upskill คนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปให้มีความสามารถสอดคล้องกับโลกยุคใหม่ โดยสามารถลาเรียนได้แบบเต็มเวลา (full–time) และรัฐจ่ายเงินเดือนให้สูงสุด 6,000 ดอลลาร์ (156,000 บาท) นาน 6 เดือน เรียนได้นานสูงสุด 2 ปี ส่วนคนเรียนแบบ Part–time จะได้รับเงินเดือนในสัดส่วนที่ลดลงมา
...
7.เป็นครั้งแรกที่สิงคโปร์จะมี Unemployment Benefit สำหรับคนตกงานเดือนละ 150,000 บาท 6 เดือน แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเข้าโปรแกรมอบรม Career coaching และ Job matching 8.รัฐจะออกกฎให้คนทำงานลาคลอดได้สูงสุด 7 เดือนครึ่ง โดยเป็นการลาคลอดของสามี 4 สัปดาห์แบบภาคบังคับ โดยได้รับเงินเดือน
9.รัฐบาลจะออกโปรแกรมอุดหนุนครอบครัวที่มีบุตรตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ในอนาคต 10.รัฐจะสร้างคอนโดมิเนียมเพื่อรองรับคนที่ต้องการมีบ้านเพิ่มขึ้นอีก 1 แสนยูนิต และมีระยะเวลาการรอคิวสั้นลง 11.บุตรหลานจะได้รับสิทธิพิเศษในการซื้อบ้านใหม่ที่อยู่ใกล้พ่อแม่ ทั้งบุตรที่ยังโสดและบุตรที่แต่งงานแล้ว 12.ออกมาตรการช่วยค่าซื้อบ้านหลังแรกให้ยูนิตละ 2.1 ล้านบาท (เพราะบ้านและคอนโดในสิงคโปร์แพงมาก) 13.รัฐจะเปิดโปรแกรมเด็กเก่ง (Gifted education) ในทุกโรงเรียน ต่อไปเด็กเก่งไม่ต้องย้ายโรงเรียนไปเข้าโรงเรียน Gifted education school อีกต่อไป
14.เน้นการเรียนภาษาที่ 2 นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ ไม่ว่าภาษาจีนหรือมาเลย์ 15.พัฒนาชายฝั่งทะเล (waterfront) ทั่วเกาะสิงคโปร์ยาว 120 กม. รองรับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจาก climate change ขยายพื้นที่ ตรงมารีนาเบย์สร้างคอนโดเพิ่มอีก 1 หมื่นยูนิต 16.จะพัฒนาย่าน Kallang (ย่านโคมแดงในสิงคโปร์) ให้เป็น indoor sports complex ขนาดใหญ่
ฟังวิสัยทัศน์นายกฯสิงคโปร์ ลอว์เรนซ์ หว่อง แล้ว เทียบกับวิสัยทัศน์ อดีตนายกฯทักษิณ ผู้นำจิตวิญญาณรัฐบาลไทย ไม่รู้อีกกี่สิบปีประเทศไทยจึงจะสามารถตามสิงคโปร์ได้ทัน ความจริงผมอยากพูดถึงนโยบาย Transforming Education ของผู้นำสิงคโปร์ ซึ่งปัจจุบันก็เหนือไทยไม่รู้กี่เท่า แต่เนื้อที่หมดแล้ว ไว้โอกาสหน้าครับ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม