ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และมิเชลล์ โอบามา ประกาศการสนับสนุนคามาลา แฮร์ริส อย่างเต็มที่ เพื่อโค่นนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน
นายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และมิเชลล์ โอบามา ภริยา ได้กล่าวโจมตีคู่ต่อสู้ในการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตเมื่อคืนวันอังคาร (20 ส.ค.) โดยเรียกร้องให้ชาวอเมริกันสนับสนุนนางคามาลา แฮร์ริส ในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เพื่อโค่นนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน
โอบามา ซึ่งเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของอเมริกา กล่าวกับผู้แทนพรรค สส. และผู้สนับสนุน ในวันที่สองของการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตที่นครชิคาโก ว่า "เราไม่ต้องการการคุยโวโอ้อวด และความวุ่นวาย ไปอีกสี่ปี เราเคยดูหนังเรื่องนี้มาแล้ว และเราทุกคนรู้ดีว่าภาคต่อมักจะแย่กว่า" เขากล่าวต่อว่า "อเมริกาพร้อมแล้วสำหรับโฉมหน้าใหม่ อเมริกาพร้อมแล้วสำหรับเรื่องราวที่ดีกว่า เราพร้อมแล้วสำหรับประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส"
เขาพุ่งเป้าการโจมตีไปที่ทรัมป์ ซึ่งรับตำแหน่งต่อจากเขาในปี 2017 และชื่นชมประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งจำเป็นต้องถอนตัวออกจากการชิงชัย หลังสมาชิกพรรคเดโมแครตเกรงว่าเขาจะแพ้ทรัมป์ในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน "ประวัติศาสตร์จะจดจำโจ ไบเดนในฐานะประธานาธิบดีที่ปกป้องประชาธิปไตยในช่วงเวลาแห่งอันตรายครั้งใหญ่ ผมภูมิใจที่ได้เรียกเขาว่าประธานาธิบดีของผม แต่ภูมิใจยิ่งกว่าที่ได้เรียกเขาว่าเพื่อนของผม"
นายโอบามายังชี้ให้เห็นว่า ทรัมป์เป็นบุคคลอันตรายที่ไม่เคยคำนึงถึงบุคคลอื่น เป็นบุคคลที่สร้างความแตกแยกและความเกลียดชัง มุ่งเอาชนะโดยไม่สนฝ่ายตรงข้าม เลี่ยงภาษี จำกัดเสรีภาพและสิทธิของแรงงาน ใฝ่หาผลประโยชน์โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะที่นางแฮร์ริสและพรรคเดโมแครต มีความมุ่งมั่นในการสร้างเสรีภาพ เพื่อให้ประชาชนหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีและปลอดภัยจากความรุนแรง
...
นายโอบามาได้รับการแนะนำตัวโดยมิเชลล์ ภรรยาของเขา ซึ่งกล่าวว่า "อเมริกา ความหวังกำลังกลับมาอีกครั้ง" เธอไม่มีท่าทีลังเลที่จะเตือนว่าทรัมป์จะพยายามบิดเบือนความจริงของแฮร์ริส "เช่นเดียวกับที่เขาทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อทำให้ผู้คนกลัวเรา"
เธอกล่าวท่ามกลางเสียงปรบมือที่ดังสนั่นว่า "มุมมองที่จำกัดและคับแคบของเขาที่มีต่อโลก ทำให้เขารู้สึกถูกคุกคามจากการมีอยู่ของคนสองคนที่ทำงานหนัก มีการศึกษาที่ดี และประสบความสำเร็จ ซึ่งบังเอิญเป็นคนผิวดำด้วย"
ทรัมป์เริ่มต้นอาชีพการเมืองด้วยการโจมตีสถานะพลเมืองของโอบามาด้วยทัศนคติเหยียดเชื้อชาติ และได้โจมตีแฮร์ริสในลักษณะเดียวกันอีกครั้ง ขณะที่บารัค โอบามา ในวัย 63 ปี มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการให้คำปรึกษา ซึ่งทำให้ไบเดนถอนตัวออกจากการชิงชัยเมื่อเดือนที่แล้วและสนับสนุนแฮร์ริส รองประธานาธิบดี ให้สานต่อหน้าที่แทน
นอกจากนั้น ยังมีการปราศรัยของอดีตสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ออกจากพรรคนับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง ที่รวมถึงนางสเตฟานี กริชแฮม อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารมวลชนของรัฐบาลทรัมป์ กริชแฮมกล่าวถึงการเดินทางของเธอ จาก "ผู้ศรัทธาอย่างแท้จริง" ของทรัมป์ ไปจนถึงการเป็นเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวอาวุโสคนแรกที่ลาออก หลังจากเหตุการณ์ที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021
เธอกล่าวว่า เธอรักชาติมากกว่าพรรค ในการเลือกตั้งครั้งนี้จึงจะหันมาลงคะแนนในนางแฮร์ริส เธอเปิดเผยว่าในการทำงานกับทรัมป์ เธอไม่เคยขึ้นโพเดียมแถลงข่าวเองเพราะมีหลายเรื่องที่ต้องโกหกให้ทรัมป์ ส่วนเหตุจลาจลที่รัฐสภาซึ่งทรัมป์ยุยงให้ผู้สนับสนุนก่อเหตุรุนแรงและไม่ยอมรับความพ่ายแพ้การเลือกตั้ง นางกริชแฮม กล่าวว่า เธอรับเรื่องนี้ไม่ได้ เธอจึงขอลาออกจากตำแหน่ง.
ที่มา Reuters
อ่านข่าวต่างประเทศเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign