ยูเครนสั่งอพยพประชาชนในเมืองสำคัญทางตะวันออก หลังทหารรัสเซียยังคงรุกคืบอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ายูเครนจะบุกโจมตีแคว้นคูสค์ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการยูเครนออกคำสั่งอพยพเมืองสำคัญในภูมิภาคดอนบาสเมื่อ 19 ส.ค. 2567 หลังจากกองทัพรัสเซียยังคงรุกคืบบริเวณหน้าทางตะวันออกอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ายูเครนจะยกทัพบุกโจมตีภายในแคว้นคูสค์ของรัสเซียต่อเนื่องมานานกว่า 1 สัปดาห์ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของมอสโกก็ตาม
นายเซอร์ฮี โดเบรียค หัวหน้าคณะบริหารเมืองโปครอฟสก์ (Pokrovsk) ระบุว่า ครอบครัวและเด็กๆ ในเมืองแห่งนี้ รวมถึงในหมู่บ้านโดยรอบจะต้องอพยพ โดยพวกเขามีเวลาอย่างมากสุด 2 สัปดาห์เพื่อหนีการบุกของรัสเซีย
ทั้งนี้ เมืองโปครอฟสก์ ในแคว้นโดเนตสก์ มีความสำคัญต่อฝ่ายยูเครนอย่างมาก เพราะมีถนนเชื่อมต่อกับเมืองคอสเตียนตีนิฟกา อีกหนึ่งศูนย์กลางทางทหาร ทำให้สามารถใช้เป็นเส้นทางเติมเสบียงและอพยพได้โดยง่าย
ด้านนายวาดีม ฟีลาชคิน ผู้ว่าการแคว้นโดเนตสก์ เผยว่า ตอนนี้ยังมีประชาชนราว 53,000 คน รวมเด็กๆ เกือบ 4,000 คน อยู่ในเมืองโปครอฟสก์ และรัฐบาลจำเป็นต้องบังคับอพยพพวกเขาออกไป “เมื่อเมืองของเราอยู่ในระยะที่มองเห็นได้ของอาวุธใดๆ ของศัตรู การตัดสินใจอพยพเป็นสิ่งจำเป็นและหลีกเลี่ยงไม่ได้”
ขณะที่นายโดเบรียคกล่าวว่า อัตราการอพยพตอนนี้เพิ่มขึ้นจาก 500 คนต่อวัน เป็น 600 คนต่อวัน โดยที่บริการพื้นฐานในเมืองยังคงทำงานตามปกติ แต่จะค่อยๆ หยุดบริการเมื่อกองทัพรัสเซียขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น
คำสั่งอพยพเมืองโปครอฟสก์เกิดขึ้นไม่นานหลังจาก ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกมาอ้างว่า ทหารของพวกเขารุกคืบอย่างต่อเนื่องในการบุกโจมตีแคว้นคูสค์ของรัสเซีย และว่า การโจมตีนี้กำลังบรรลุเป้าหมาย และจับเชลยสงครามได้เพิ่มขึ้นด้วย โดยเขาระบุว่า นี่คือทุนในการแลกเปลี่ยน
...
ในวันจันทร์ที่ 19 ส.ค. บล็อกเกอร์สายทหารชาวรัสเซียออกมาอ้างว่า ยูเครนระเบิดสะพานข้ามแม่น้ำเซย์ม ในแคว้นคูสค์ เป็นแห่งที่ 3 แล้ว แต่ฝ่ายยูเครนยังไม่ได้ออกมายอมรับใดๆ ต่างจากเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ที่พวกเขายอมรับว่า โจมตีทำลายสะพานข้ามแม้น้ำเซย์ม 2 สาย เพื่อตัดเส้นทางขนส่งเสบียงของกองทัพรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า รัสเซียแก้สถานการณ์อย่างรวดเร็ว ด้วยการสร้างสะพานลอยน้ำขึ้นมาใช้ชั่วคราวแทนสะพานถาวรที่ถูกทำลายไป โดยภาพถ่ายจากดาวเทียมแสดงให้เห็นสะพานลอยน้ำถูกสร้างแล้ว 2 สาย ใกล้เมืองกลัชโคโว (Glushkovo)
อนึ่ง สถาบันศึกษาสงคราม (ISW) ระบุว่า รัสเซียยังคงยึดมั่นในแผนการรุกคืบอย่างมั่นคงในสมรภูมิฝั่งตะวันออก แต่การโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวของยูเครนในแคว้นคูสค์ แสดงให้เห็นว่า การชิงลงมือก่อนทำให้เคียฟสามารถได้ผลลัพธ์ที่ดีมากกว่ารอความพ่ายแพ้อย่างช้าในสงครามพร่ากำลัง
รัฐบาลเคียฟอ้างว่า พวกเขายึดดินแดนในแคว้นคูสค์ได้แล้วร่วม 1,000 ตร.กม. นับตั้งแต่เริ่มการโจมตีเมื่อ 6 ส.ค. ขณะที่ ISW ประเมินว่า รัสเซียยึดพื้นที่ของยูเครนได้ประท้วง 1,175 กม. ระหว่างเดือนมกราคมจนถึงกรกฎาคมปีนี้ แต่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า ยูเครนไม่ได้ควบคุมพื้นที่ที่กล่าวอ้างอย่างสมบูรณ์ทั้งหมด
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc