กองทัพยูเครนระเบิดสะพานในแคว้นคูสค์เป็นแห่งที่ 2 ในขณะที่กองทัพรัสเซียเดินหน้าบุกต่อในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การต่อสู้ในแคว้นคูสค์ดำเนินต่อไปในวันอาทิตย์ที่ 18 ส.ค. 2567 หรือ 13 วันหลังจากยูเครนส่งทหารข้ามพรมแดนเข้าไปโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อ 6 ส.ค. และสามารถยึดหมู่บ้านบริเวณชายแดนไว้ได้หลายสิบแห่ง ขณะที่ฝ่ายรัสเซียต้องเร่งระดมพลเพื่อยึดคืนดินแดน
โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ออกแถลงการณ์ผ่านคลิปวิดีโอล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ ระบุว่า จุดยืนของทหารยูเครนในแคว้นคูสค์กำลังเข้มแข็งขึ้น และตอนนี้พวกเขากำลังเสริมกำลังในฐานที่มั่นของตัวเอง
ขณะเดียวกัน นายพล มีโคลายิฟ โอเลชชุค ผู้บัญชาการกองทัพอากาศยูเครน เปิดเผยว่า พวกเขาโจมตีทางอากาศอย่างแม่นยำ และทำลายสะพานข้ามแม่น้ำเซย์ม (Seym) ในแคว้นคูสค์ได้เป็นแห่งที่ 2 โดยเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามตัดขีดความสามารถด้านพลาธิการของทหารรัสเซีย
เมื่อ 2 วันก่อนยูเครนเพิ่งทำลายสะพานข้ามแม่น้ำเซย์มอีกแห่งหนึ่ง โดยกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียออกกล่าวหายูเครนว่า ขีปนาวุธที่ได้จากตะวันตก ซึ่งน่าจะเป็นมิสไซล์ HIMARS ของสหรัฐฯ ในการโจมตีดังกล่าว
ด้านองค์กรสังเกตการณ์ของยูเครนชื่อว่า “DeepState” ระบุในวันอาทิตย์ว่า ทหารเคียฟรุกคืบชิงดินแดนในแคว้นคูสค์ได้เพิ่มขึ้นอีก พร้อมเผยแพร่ภาพนิ่งที่ตัดจากวิดีโอ แสดงให้เห็นรถถังของยูเครนอยู่ในหมู่บ้านโอลกอฟกา ซึ่งห่างจากเมืองซุดชา ไปทางเหนือประมาณ 20 กม.
ทหารยูเครนยึดเมืองซุดชา ซึ่งห่างจากขายแดนไม่กี่กิโลเมตรได้หลังจากเริ่มบุกโจมตีไม่นาน และตั้งสำนักงานบัญชาการทหารขึ้นที่นั่น
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า การโจมตีข้ามพรมแดนของยูเครนมีจุดประสงค์หลายอย่าง รวมถึงเพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ทหารที่ถูกรัสเซียโจมตีอย่างหนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และเบี่ยงเบนความสนใจของรัสเซียจากสมรภูมิฝั่งตะวันออก
...
อย่างไรก็ตาม ยูเครนยังคงเผชิญแรงกดดันในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งกองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดรัสเซียขยับเข้าใกล้เมืองโปครอฟสกี ในแคว้นโดเนตสก์แล้ว โดยเมืองแห่งนี้มีความสำคัญต่อฝ่ายยูเครน เพราะไปมาจากเมืองคอสเตียนตีนิฟกา อีกหนึ่งศูนย์กลางทางทหารได้ง่าย ทำให้สามารถใช้เป็นเส้นทางเติมเสบียงและอพยพได้สะดวก
นายเซอร์ฮี โดเบรียค หัวหน้าผู้บริหารเมืองโปครอฟสก์ ยอมรับในวันอาทิตย์ว่า ทหารรัสเซียอยู่ห่างจากพื้นที่ชานเมืองเพียง 11 กม.เท่านั้น แต่เขายืนยันว่าทุกเมืองในโดเนตสก์มีหน่วยต่อสู้ประจำการอยู่ และพวกเขามีแผนการป้องกันเตรียมเอาไว้แล้ว ซึ่งตอนนี้ฝ่ายบริหารกำลังทำงานร่วมกับกองทัพเพื่อสร้างป้อมปราการ
แต่การเข้าประชิดของรัสเซียทำให้ประชาชนต้องอพยพจากเมืองโปครอฟสก์เร็วขึ้น โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้อพยพออกไปถึง 1,800 คน จากเดิมที่เฉลี่ยอยู่ที่ 450-500 คนต่อเดือน
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cnn