รัสเซียโวย ยูเครนใช้จรวด HIMARS จากสหรัฐฯ ครั้งแรก โจมตีสะพาน 2 แห่งในแคว้นคูสค์ หวังตัดเส้นทางลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพรัสเซียมาให้แก่ทหารในพื้นที่ หลังจากก่อนหน้าวันเดียว ยูเครนเผยยึดเมืองซุดซา ในแคว้นคูสค์ได้แล้ว
เมื่อ 17 ส.ค. 2567 สถานการณ์ยูเครนบุกแคว้นคูสค์ ทางตะวันตกของรัสเซียทวีความดุเดือด กองกำลังทหารยูเครนโจมตีสะพานสำคัญเชิงยุทธศาสตร์สองแห่ง ข้ามแม่น้ำเซย์ม ในแคว้นคูสค์ หวังตัดเส้นทางลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์มาให้แก่ทหารในพื้นที่ โดยทางการรัสเซียชี้ว่า ยูเครนใช้จรวดที่สหรัฐฯ ส่งมาให้ในการโจมตีแคว้นคูสค์เป็นครั้งแรก
มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกหญิงประจำกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย โพสต์ข้อความผ่านทางแอปพลิเคชันเทเลแกรม ว่า เป็นครั้งแรก ที่แคว้นคูสต์โดนโจมตีด้วยจรวดที่สร้างโดยชาติตะวันตก ซึ่งบางทีอาจเป็นจรวดไฮมาร์ส (HIMARS) ของสหรัฐฯ
...
ผลจากการโจมตีสะพานถนนข้ามแม่น้ำเซย์ม ในเขตกูลชโคโว ทำให้สะพานพังเสียหายทั้งหมด โดยอาสาสมัครกู้ภัยกำลังช่วยกู้ศพพลเรือนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีสะพานในแคว้นคูสค์
ก่อนหน้านี้ ทางฝ่ายกองทัพยูเครนได้อ้างว่าสามารถยึดเมืองซุดซา (Sudzha) เมืองยุทธศาสตร์ในแคว้นคูสค์ได้แล้ว ซึ่งเคยมีประชากรอาศัยอยู่ก่อนเกิดสงครามประมาณ 5,000 คน และมีการตั้งศูนย์บัญชาการทางทหารที่เมืองซุดซา หลังจากกองทัพยูเครนได้ส่งกำลังทหารบุกข้ามพรมแดนเข้ามาในแคว้นคูสค์ เพื่อตอบโต้รัสเซียที่ทำสงครามในยูเครน
ขณะที่ทางการยูเครนประกาศการบุกโจมตีแคว้นคูสค์เพื่อต้องการผลักดันให้รัฐบาลประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเข้าสู่กระบวนการเจรจาอย่างเป็นธรรม เพื่อยุติสงคราม
ด้านสำนักข่าว Tass ในรัสเซียรายงานถึงสงครามในยูเครนด้วยว่า ฝ่ายจัดการของรัสเซียที่โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ ซาปอริชเชีย (Zaporizhzhia) เปิดเผยว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ส.ค. ยูเครนได้ส่งโดรนพิฆาตมาทิ้งระเบิดโจมตีถนนสายหนึ่งด้านนอกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย และกำลังก่อให้เกิดอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่ใช้ถนนสายนี้
ทั้งนี้ กองทัพรัสเซียได้ยึดครองโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดในยุโรป ทางภาคตะวันออกของยูเครนโดยทันที หลังเปิดฉากทำสงครามในยูเครน เมื่อ 24 ก.พ. 2565 โดยทั้งรัสเซียและยูเครนได้กล่าวหากันไปมาว่า กำลังพยายามก่อวินาศกรรมโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง : ยูเครนโว ยึดเมืองยุทธศาสตร์ ชายแดนรัสเซียได้แล้ว หลังส่งทหารบุกแค่ 10 วัน
ที่มา : TheGuardian