ชายชาวโปแลนด์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกาย นายกรัฐมนตรีเมตเต เฟรเดอริกเซน ผู้นำเดนมาร์ก เผยว่า เขาเมาจนจำเหตุการณ์ในวันนั้นไม่ได้
ชายชาวโปแลนด์ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายนายกรัฐมนตรี เมตเต เฟรเดอริกเซน ผู้นำเดนมาร์ก ด้วยการต่อย โดยอ้างว่าเขาเมามากจนจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ โดยผู้ต้องสงสัยซึ่งไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ เนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมาย ถูกนำตัวขึ้นศาลในกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของเดนมาร์ก เขาถูกตั้งข้อหาใช้ความรุนแรงต่อข้าราชการ ตลอดจนกระทำอนาจารและฉ้อโกง ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อื่นๆ เขาให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาบางส่วน และอาจถูกจำคุกและถูกเนรเทศ
นายกรัฐมนตรีเมตเต เฟรเดอริกเซน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่คอและไหล่อันเป็นผลจากการถูกทำร้าย ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 3 สัปดาห์หลังจากนายโรเบิร์ต ฟิโก นายกรัฐมนตรีสโลวาเกีย ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการพยายามลอบสังหาร
ชายชาวโปแลนด์วัย 39 ปี ให้การต่อศาลว่า เขาเผชิญสถานการณ์ชีวิตที่ย่ำแย่ ในวันที่เขาเจอกับนางเฟรเดอริกเซนในกรุงโคเปนเฮเกนเมื่อเดือนมิถุนายน หรือเพียง 3 วันก่อนการเลือกตั้งสภายุโรป
เขากล่าวว่า "ผมได้เผชิญหน้ากับนายกรัฐมนตรี จากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย จนกระทั่งผมถูกจับกุม" นางเฟรเดอริกเซน ซึ่งถูกต่อยที่ไหล่ สามารถหนีออกจากที่เกิดเหตุได้โดยไม่ต้องช่วยเหลือใดๆ
เธอเล่าว่าในตอนนั้นเธอรู้สึก "สะเทือนขวัญ" กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ "สบายดี" จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดนมาร์กถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย และถอนตัวจากการหาเสียงในวันสุดท้ายสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายุโรป
อย่างไรก็ตาม เธอจะไม่ได้ถูกเรียกตัวเป็นพยานในการพิจารณาคดี แต่หนึ่งในบอดี้การ์ดของเธอให้การเป็นพยานว่า ชายคนดังกล่าวเข้ามาหาเธอบนถนนที่พลุกพล่าน ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างกับเธอซึ่งเธอไม่เข้าใจ และต่อยไหล่เธออย่างแรง
...
นางเฟรเดอริกเซน วัย 46 ปี เป็นผู้นำพรรคโซเชียลเดโมแครตของเดนมาร์ก ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐบาลผสมของเดนมาร์ก เธอเข้ารับตำแหน่งในปี 2562 ทำให้เธอเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของเดนมาร์ก.
ที่มา BBC
ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign