ชายอินเดียมาหาหมอที่โรงพยาบาล แต่กลับติดอยู่ในลิฟต์นานถึง 42 ชั่วโมง ไม่มีทั้งน้ำและอาหาร เจ้าตัวนึกว่าจะไม่รอดชีวิตแล้ว จนมีคนมาเจอตัว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายรวินทราน นาอีร์ ชาวอินเดียวัย 59 ปี จากรัฐเกรละ ทางตอนใต้ของอินเดีย เดินทางไปหาหมอที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง เมื่อช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 13 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมา แต่เขากลับติดอยู่ภายในลิฟต์ นานเกือบ 2 วัน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่คุมลิฟต์มาพบเขาในเช้าวันจันทร์ (15 ก.ค.)

ในตอนแรก ครอบครัวของนายนาอีร์คิดว่าเขาไปทำงานจึงขาดการติดต่อ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานพวกเขาจึงแจ้งตำรวจ ทำให้เกิดการค้นหาครั้งใหญ่

เหตุการณ์นี้กลายเป็นข่าวใหญ่ในประเทศอินเดีย จนรัฐบาลท้องถิ่นของรัฐเกรละต้องสั่งพักงานเจ้าหน้าที่เทคนิค 3 คน และออกคำสั่งให้มีการสืบสวนข้อเท็จจริง ขณะที่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลวิทยาลัยแพทย์ ‘ธิรุวานันทพุราม’ (Thiruvananthapuram) กับกระทรวงสาธารณสุขรัฐเกรละ ได้กล่าวขอโทษต่อนายนาอีร์แล้ว

ด้านนายนาอีร์ ซึ่งต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากอาการขาดน้ำและปวดหลัง เล่าให้สำนักข่าว บีบีซี ฟังว่า ตอนติดอยู่ในลิฟต์ เขาพยายามโทรเบอร์ฉุกเฉินตามหมายเลขที่ติดอยู่ในลิฟต์ แต่ไม่มีการตอบสนอง เขายังพยายามโทรศัพท์หาภรรยา ซึ่งทำงานในโรงพยาบาลนี้ และใครก็ตามที่นึกออก แต่โทรไม่ติดเลย

“ผมเริ่มตื่นตระหนกและเริ่มทุบประตูลิฟต์เพื่อดึงดูดความสนใจ ตอนนั้นเองโทรศัพท์ของผมก็ตกพื้นและหยุดทำงาน” นายนาอีร์กล่าว “ผมตะโกนและกรีดร้องขอความช่วยเหลือ และพยายามใช้มือเปิดประตูลิฟต์ ตอนนั้นภายในลิฟต์มืดสนิทแล้ว แต่โชคดีที่ยังมีอากาศพอให้หายใจ”

จากนั้นนายนาอีร์ก็เดินไปเดินมาในลิฟต์ กดปุ่มกระดิ่งฉุกเฉินซ้ำแล้วซ้ำอีก หวังว่ามันจะดังและดึงดูดความสนใจของใครบางคนได้ แต่ไม่สำเร็จ

...

“หลายชั่วโมงผ่านไป ผมไม่รู้ว่าเป็นกลางวันหรือกลางคืน เพราะข้างในมืดมาก ตอนผมเหนื่อยผมก็ไปนอนหลับที่มุมลิฟต์ ผมต้องใช้อีกมุมหนึ่งเพื่อปัสสาวะและอุจจาระ”

ทั้งนี้ นายนาอีร์เผยว่า เขาต้องมาโรงพยาบาลเป็นประจำตั้งแต่ 2-3 เดือนก่อน หลังล้มในห้องน้ำและเกิดอาการปวดหลังรุนแรง ในวันเกิดเหตุ เขาไปหาหมอเพื่อเอกซเรย์ เนื่องจากเขาปวดหลังรุนแรงระหว่างการเดินทางครั้งล่าสุด แต่เขาลืมผลตรวจเลือดไว้ที่บ้าน และภรรยาต้องไปทำงาน ทำให้เขาต้องกลับบ้านคนเดียวแล้วกลับมาใหม่

นายนาอีร์เล่าอีกว่า ตามปกติตอนมาหาหมอ เขากับภรรยาจะใช้ลิฟต์สำหรับพนักงาน แต่คราวนี้เขาต้องใช้ลิฟต์หมายเลข 11 สำหรับคนไข้และผู้มาติดต่อ เพื่อขึ้นไปชั้น 2 “ตอนนั้นเพิ่งเที่ยงกว่า ไม่มีใครอยู่ในลิฟต์เลย แต่ไฟยังเปิดอยู่ ผมจึงไม่คิดว่าจะมีอะไรผิดปกติ”

เขากดปุ่มแล้วลิฟต์ก็เริ่มเลื่อนขึ้น แต่พอใกล้ถึงชั้น 2 ลิฟต์กลับเลื่อนลงมาแล้วหยุดอยู่ระหว่างชั้นที่ 1 กับ 2 แล้ววิบากกรรมของนายนาอีร์ก็เริ่มต้นขึ้น ซึ่งเมื่อถึงจุดหนึ่ง นายนาอีร์จำได้ว่าเขาต้องทานยาควบคุมความดัน ซึ่งเขาพกติดตัวไว้เสมอ แต่ทานไม่ได้เนื่องจากไม่มีน้ำ และคอเขาก็แห้งมากจากการตะโกนข้อความช่วยเหลือ

“ผมเริ่มคิดว่าผมจะตายในลิฟต์นี้หรือไม่ ผมเป็นห่วงภรรยากับลูกๆ และคิดถึงพ่อแม่ที่ตายไปแล้วกับบรรพบุรุษ แต่จากนั้นผมก็ปลุกใจตัวเองขึ้นมาด้วยวิธีอะไรสักอย่างให้เข้มแข็งขึ้น และบอกตัวเองว่า ผมต้องก้าวข้ามบททดสอบอันน่ากลัวนี้ไปให้ได้” นายนาอีร์กล่าว และเสริมว่า สิ่งหนึ่งในการปลอบประโลมเขาได้คือ การท่องบทกลอนที่ภรรยาของเขาเป็นผู้เขียน

และในที่สุดความช่วยเหลือก็มาถึงในเวลาประมาณ 06.00 น. ของวันจันทร์ที่ 15 ก.ค. เมื่อเจ้าหน้าที่ควบคุมลิฟต์เปิดประตูแล้วบอกให้เขาออกมา เมื่อออกมาได้แล้ว สิ่งแรกที่นายนาอีร์ทำก็คือ โทรศัพท์หาภรรยา ผู้ซึ่งไม่รู้เลยว่าสามีที่หายไปของเธอ ติดอยู่ในลิฟต์ในที่ทำงานของเธอนั่นเอง

หลังจากนั้น ลิฟต์เจ้าปัญหาก็ถูกติดป้ายซ่อมบำรุง และเตือนผู้คนไม่ให้ใช้งาน

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc

Cr.ภาพ : Muzaffar AV