สื่อของเกาหลีใต้อ้างว่า เกาหลีเหนือประหารชีวิตนักเรียนกว่า 30 ราย โทษฐานแอบดูซีรีส์เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นเรื่องต้องห้ามร้ายแรง

TV Chosun เคเบิลทีวีท้องถิ่นของเกาหลีใต้ รายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รัฐบาลเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมาว่า ทางการเกาหลีเหนือดำเนินการประหารชีวิตนักเรียนชั้นมัธยมต้นจำนวน 30 รายเมื่อสัปดาห์ก่อน ด้วยการยิ่งเป้าถ่ายทอดสด โทษฐานที่พวกเขาแอบดูซีรีส์ของเกาหลีใต้

เคเบิลทีวีเจ้านี้ระบุว่า ไฟล์ข้อมูลซีรีส์ดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องต้องห้ามในเกาหลีเหนือ บรรจุอยู่ในยูเอสบี (USB) ที่กลุ่มผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือ ส่งข้ามชายแดนเกาหลีใต้ไปพร้อมกับบอลลูนจำนวนมากเมื่อเดือนมิถุนายน

กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะยืนยันรายงานของ TV Chosun แต่เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนามคนหนึ่ง บอกว่า “เป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางว่า ทางการเกาหลีเหนือควบคุมประชาชนอย่างเข้มงวด และลงโทษอย่างหนัก ภายใต้กฎหมายชั่วร้าย 3 ข้อ ซึ่งรวมถึง กฎหมายว่าด้วยการปฏิเสธวัฒนธรรมและแนวคิดปรปักษ์”

เจ้าหน้าที่คนเดิมระบุว้า รายงานด้านสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือประจำปี 2567 ซึ่งเผยแพร่โดยกระทรวงรวมชาติ มีบันทึกสถิติผู้ถูกประหารเพราะดูซีรีส์เกาหลีใต้เอาไว้หลายราย

ทั้งนี้ กฎหมายว่าด้วยการปฏิเสธวัฒนธรรมและแนวคิดปรปักษ์ ของเกาหลีเหนือ ถูกบังคับใช้เป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2563 มีบทลงโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต แก่ผู้ที่เผยแพร่สื่อของเกาหลีใต้ เช่น หนังสือ, เพลง หรือภาพต่างๆ ส่วนผู้ที่ชมสื่อดังกล่าวอาจถูกจำคุกสูงสุด 15 ปี ส่วนผู้ที่พูดหรือร้องเพลงภาษาเกาหลีใต้ จะถูกลงโทษใช้แรงงานหนักนาน 2 ปี

เมื่อเดือนก่อนก็มีรายงานว่า มีวัยรุ่นเกาหลีเหนืออายุราว 17 ปี ประมาณ 30 คน ถูกทางการตัดสินจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต เพื่อยับยั้งการเผยแพร่วัฒนธรรมเกาหลีใต้ในประเทศ

...

ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทางการเกาหลีเหนือเผยแพร่คลิปวิดีโอการไต่สวนวัยรุ่นอายุ 16 ปี 2 คน ซึ่งทั้งคู่ถูกกล่าวหาว่าดูซีรีส์เกาหลีใต้ และสุดท้ายพวกเขาก็ถูกตัดสินให้ใช้แรงงานหนักเป็นเวลา 12 ปี วิดีโอดังกล่าวยังมีภาพผู้หญิงหลายคนถูกลงโทษฐานทำผมและแต่งกายเลียนแบบตัวละครในซีรีส์ด้วย

ผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือ เปิดเผยในรายงานด้านสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือประจำปี 2567 ด้วยว่า ประชาชนที่สัมผัสกับวัฒนธรรมหรืออาหารของเกาหลีใต้ จะถูกลงโทษอย่างหนัก และการใส่ชุดเดรสสีขาวแต่งงานแทนที่จะเป็นชุดฮันบก, การดื่มจากแก้วไวน์ และการสวมแว่นกันแดด ถูกจัดให้เป็นพฤติกรรมที่เป็นปรปักษ์

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : korea joongang daily