สงครามระหว่างอิสราเอลกับอียิปต์ จอร์แดน องค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์และพันธมิตร ระหว่าง ค.ศ.1967-1970 กองทัพอียิปต์โจมตีตามแนวคลองสุเอซ โดยมีสหภาพโซเวียตช่วยเหลือปฏิบัติการป้องกันน่านฟ้าอียิปต์ ทหารฝ่ายโซเวียตเสียชีวิต 58 นาย เครื่องบินถูกทำลาย 5 ลำ ผู้นำกองกำลังโซเวียตเสียชีวิตในครั้งนั้นด้วย รัสเซียตัดความสัมพันธ์กับอิสราเอล ค.ศ.1969

ปัจจุบันสหรัฐฯและพันธมิตรช่วยอูเครนรบกับรัสเซีย ขณะนี้รัสเซียกำลังพิจารณาเรื่องการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศที่แสดงความไม่เป็นมิตรและมีการแสดงออกถึงความเป็นศัตรูกับรัสเซีย

ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯและพันธมิตรมีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นสงครามนิวเคลียร์ หากสหรัฐฯและตะวันตกบีบคั้นรัสเซีย รัสเซียซึ่งเป็นประเทศสืบสิทธิหลังจากโซเวียตล่ม พยายามรักษาความสัมพันธ์กับสหรัฐฯและโลกตะวันตกมาโดยตลอด

ยกตัวอย่างประกอบก็ได้ครับ สงครามเย็นระหว่างโซเวียตกับสหรัฐฯเข้าไปใกล้กับความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์นั่นคือช่วงวิกฤตการณ์ขีปนาวุธที่คิวบา ซึ่งเกิดเมื่อ 22 ตุลาคม 1962 ตอนนั้น ประธานาธิบดีเคนเนดีของสหรัฐฯปิดล้อมเกาะคิวบา นิกิตา เซรเกเยวิช ครุชชอฟ นายกรัฐมนตรีสหภาพโซเวียตส่งโทรเลขไปให้ประธานาธิบดีเคนเนดีเพื่อเรียกร้องให้สหรัฐฯและโซเวียตเลี่ยงสงคราม หากสหรัฐฯยกเลิกการปิดล้อมเกาะคิวบาและให้คำปฏิญาณว่าจะไม่บุกโจมตีคิวบา โซเวียตก็พร้อมจะถอนอาวุธทั้งหลายออกจากคิวบาเช่นกัน

เคนเนดีส่งโทรเลขตอบครุชชอฟว่า สหรัฐฯพร้อมจะเจรจาข้อเสนอ และพอถึง 28 ตุลาคม 1962 ครุชชอฟก็ตกลงที่จะรื้อฐานยิงขีปนาวุธและถอนอาวุธที่จะใช้ในการโจมตีสหรัฐฯออกจนหมด แถมยังให้ผู้แทนสหประชาชาติเข้าตรวจสอบการรื้อฐานยิงขีปนาวุธออกด้วย

การปฏิบัติตัวเพื่อเลี่ยงสงครามใหญ่ของสหภาพโซเวียตเป็นไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่โซเวียตถอนขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ สหรัฐฯก็ยกเลิกการปิดล้อมเกาะคิวบา แต่สหรัฐฯก็ยังเบี้ยวด้วยการไม่ให้คำปฏิญาณว่าจะไม่บุกคิวบาอีก

...

ปูตินเป็นคนที่อ่อนนอกแข็งใน ถึงแม้จะพูดน้อยแต่ต่อยหนัก และรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงของสหรัฐฯและตะวันตก ปูตินบอกว่าที่อูเครนกล้าฆ่าคนอูเครนเชื้อสายรัสเซียจำนวนมากเป็นเพราะมีบางประเทศให้ท้าย สหรัฐฯและตะวันตกวางแผนให้รัสเซียแตกเหมือนโซเวียตแตกเมื่อ ค.ศ.1991 (ตอนนั้นโซเวียตแตกเป็น 15 ประเทศ) ซึ่งคราวนี้สหรัฐฯและตะวันตกต้องการให้รัสเซียแตกเป็นประเทศเล็กชาติน้อยอีกรอบ เพื่อจะเข้าไปยึดทรัพยากรธรรมชาติที่มีจำนวนมหาศาลของรัสเซีย

ส่วนสหรัฐฯและพันธมิตร รวมทั้งอูเครนปฏิบัติการจิตวิทยาบอกกับคนทั้งโลกว่ารัสเซียเป็นประเทศไม่ดี หากชนะในสงครามรัสเซีย-อูเครน รัสเซียก็จะกลายเป็นเหิมเกริมและรุกรานประเทศอื่นไปทั่ว อันที่จริงก็ไม่มีใครเชื่อประโยคปฏิบัติการจิตวิทยาที่ใช้โจมตีรัสเซียดอกครับ แต่ที่มีหลายประเทศเอาด้วยกับสหรัฐฯก็เพราะความเป็นพวกและผลประโยชน์ร่วมที่ประเทศเหล่านั้นมีกับสหรัฐฯและตะวันตก

15-16 มิถุนายน 2024 มีการประชุมซัมมิตว่าด้วยสันติภาพในอูเครนที่สมาพันธรัฐสวิส เซเลนสกีและสหรัฐฯกับพันธมิตรกระดี๊กระด๊ากันน่าดู เชิญทั้งรัฐและองค์กรระหว่างประเทศมากถึง 160 ราย แต่พอถึงคราวประชุมจริง มีมากระหรอมกระแหรมเพียง 92 ราย การประชุม ล้มเหลวเละเทะไม่เป็นท่า ไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดๆ

ที่น่าแปลกใจก็คือแถลงการณ์สุดท้ายของการประชุมที่สวิตเซอร์แลนด์ มีการอ้างอิงกฎบัตรสหประชาชาติ หลักการว่าด้วยบูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตยของทุกรัฐ แต่ดันไม่มีการตั้งข้อเรียกร้องอย่างเปิดเผยชัดเจนให้รัสเซียถอนทหารออก นักวิเคราะห์ระหว่างประเทศหลายคนมองว่านี่เป็นปาหี่ปฏิบัติการจิตวิทยาเพื่อให้รัสเซียเสียชื่อเสียง

หลายคนอดคิดไม่ได้ว่า สหรัฐฯและตะวันตกอาจจะไม่ต้องการให้สงครามสงบจริงๆ หลายประเทศลงทุนไปมากแล้ว หากสงครามสงบ พวกตนก็ไม่ได้อะไรเลย สหรัฐฯและตะวันตกอาจจะอยากให้สงครามดำเนินต่อไปเพื่อทำให้รัสเซียเกิดความยุ่งยากต่อไป วันไหนที่ปูตินตายกลายเป็นผี และได้ผู้นำคนใหม่ที่ไม่ประสีประสา (แบบเดียวกับ นายกอร์บาชอฟ) ก็จะเป็นจังหวะที่ตีรัสเซียให้แตกได้อีกรอบ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com

คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม