ลุ้นสัญญาณเสียงใต้น้ำ ความหวังใหม่ ช่วยไขปริศนาเครื่องบินโดยสารมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH370 ตกที่ไหน หลังสูญหายลึกลับนับ 10 ปี

เดลี่เมล รายงาน มีความหวังใหม่ที่อาจช่วยไขปริศนาเครื่องบินโดยสารมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH370 กัวลาลัมเปอร์-ปักกิ่ง ประสบเหตุตกและสูญหายมานานกว่า 10 ปี เมื่อทีมนักวิจัยจากสหราชอาณาจักร พบสัญญาณเสียงใต้น้ำ ในช่วงเวลาเดียวกับที่เชื่อว่าเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777 ลำนี้ตก เมื่อ 8 มีนาคม 2557

ทีมนักวิจัยจากกรุงคาร์ดิฟฟ์ เมืองหลวงเวลส์ ได้พบสัญญาณเสียงใต้น้ำ จากการใช้ไมโครโฟนใต้น้ำ หรือเรียกกันว่า ไฮโดรโฟน (Hydrophone) เพื่อใช้ตรวจจับและวัดคลื่นเสียงใต้น้ำ พบสัญญาณเสียงใต้น้ำเป็นเวลา 6 วินาที ในช่วงเวลาที่เชื่อว่า MH370 ตกเมื่อ 10 กว่าปีก่อน โดยนักวิจัยที่เปิดเผยเรื่องนี้กล่าวว่า จำเป็นต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อระบุว่าสัญญาณเสียงใต้น้ำที่บันทึกได้นั้น สามารถนำไปสู่การหาจุดตกของเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ลำนี้ได้หรือไม่

ส่วนจุดเริ่มต้นของทีมนักวิจัยในคาร์ดิฟฟ์ ในความพยายามหาจุดตกของเที่ยวบิน MH370 นั้น มาจากข้อสันนิษฐานว่า เครื่องบินโดยสาร ขนาดน้ำหนัก 200 ตัน อย่าง MH370 จะต้องปล่อยพลังงานจลน์ (พลังงานที่เกิดกับวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่) พอๆ กับการเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็ก ถ้าหากเครื่องบินพุ่งตกลงในมหาสมุทร ด้วยความเร็ว 200 เมตรต่อวินาที 

...

โดยพลังงานจลน์ที่ปล่อยออกมานี้ ใหญ่พอที่จะบันทึกได้โดยไมโครโฟนใต้น้ำที่อยู่ห่างจากจุดตกไปไกลหลายพันไมล์ โดยมีไมโครโฟนใต้น้ำสองจุด คือใน Cape Leeuwin ที่รัฐเวสต์เทิร์น ออสเตรเลีย ในประเทศออสเตรเลีย และที่เกาะดิเอโก การ์เซีย ของอังกฤษ ในมหาสมุทรอินเดีย

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เครื่องบินโดยสารมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH370 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 ชีวิต ได้สูญหายไปจากจอเรดาร์ และคาดว่าเครื่องบินน้ำมันหมด จนพุ่งตกในมหาสมุทรอินเดีย หลังจากเครื่องบินลำนี้ได้เปลี่ยนเส้นทางบินจากกัวลาลัมเปอร์ไปยังกรุงปักกิ่ง โดยไม่ทราบสาเหตุนั้น ปรากฏว่าจากการค้นหาในพื้นที่ 46,332 ตารางไมล์ กลับไม่พบซากเครื่องบินแต่อย่างใด 

มีเพียงแต่พบซากชิ้นส่วนเครื่องบิน 2-3 ชิ้น ท่ามกลางการเกิดทฤษฎีสมคบคิดมากมายเกี่ยวกับการหายไปอย่างลึกลับของ MH370 จนนับเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมทางการบินที่หายไปอย่างลึกลับมากที่สุดเลยทีเดียว 

ที่มา : Dailymail