ประชาชนในฝรั่งเศสจำนวนหลายแสนคนออกมาเดินขบวนทั่วประเทศ เพื่อประท้วงต่อต้านกลุ่มการเมืองฝ่ายขวาจัด ซึ่งผงาดขึ้นมาหลังการเลือกตั้งรัฐสภายุโรป
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประชาชนในฝรั่งเศสจำนวนหลายแสนคนออกมาเดินขบวนตามท้องถนนทั่วประเทศ ในวันเสาร์ที่ 15 มิ.ย. 2567 เพื่อประท้วงต่อต้านการผงาดขึ้นมาของกลุ่มการเมืองฝ่ายขวาจัดในการเลือกตั้งรัฐสภายุโรป ซึ่งทำให้ ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ต้องประกาศยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่
ตำรวจฝรั่งเศสระบุว่า ในกรุงปารีสมีประชาชนออกมาร่วมชุมนุมจำนวนประมาณ 75,000 คน ตามคำเรียกร้องของกลุ่มสหภาพ, สมาคม และกลุ่ม ‘CGT’ กลุ่มพันธมิตรการเมืองฝ่ายซ้ายใหม่ ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อศึกเลือกตั้งรัฐสภาฝรั่งเศสโดยเฉพาะ
กลุ่ม CGT ประเมินจำนวนผู้คนที่ออกมาชุมนุมประท้วงทั่วประเทศเอาไว้ที่ 640,000 คน และโดยกว่า 250,000 คนอยู่ในกรุงปารีส
...
การชุมนุมดังกล่าวเกิดขึ้นไล่ตั้งแต่เมืองบายอน (Bayonne) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส, เมืองวาน (Vannes) ทางตะวันตก ไปจนถึงเมืองแร็งส์ ทางตะวันออก โดยประชาชนมาแสดงการต่อต้านกลุ่มฝ่ายขวาจัด ซึ่งกำลังมีแนวโน้มที่จะชนะการเลือกตั้งรัฐสภาที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 มิ.ย.นี้
หากพรรคฝ่ายขวาจัดชนะเลือกตั้งจริง นายจอร์แดน บาร์เดลลา หัวหน้าพรรคเนชันแนล แรลลี (RN) ก็อาจกลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่
“ผมคิดว่าผมจะไม่มีวันได้เห็นกลุ่มขวาจัดขึ้นมามีอำนาจ แต่ตอนนี้มันอาจเกิดขึ้นได้” นายฟลอรอง เดวิด วัย 60 ปี หนึ่งในผู้ร่วมการประท้วงในกรุงปารีส กล่าว
ทั้งนี้ การประท้วงส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสงบ แม้จะมีการกระทบกระทั่งกันบ้างที่เมืองแร็งส์กับเมืองน็องต์ ทางตะวันตกของฝรั่งเศส เมื่อตำรวจพยายามใช้แก๊สน้ำตาผลักดันกลุ่มนักเคลื่อนไหวฝ่ายซ้ายจัดจำนวนหลายสิบคนให้ถอยร่นกลับไป
ที่กรุงปารีสมีรายงานว่าโครงสร้างพื้นฐานบนถนนบางจุดได้รับความเสียหาย ขณะที่สาขาธนาคารบางแห่งถูกผู้ชุมนุมสวมเสื้อคลุมมีฮู้ดบุกโจมตี ขณะที่ตำรวจถูกผู้ประท้วงขว้างปาขวดใส่ ทำให้พวกเขาตัดสินใจตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตา.
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cna