(ภาพประกอบ)

สื่อมาเลเซีย รายงานข่าวที่สร้างความฮือฮา ไทยนั่งทับ กรุสมบัติ ทรัพยากรแร่ พบมากถึง 40 ชนิด ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 60 ล้านไร่ มูลค่าราว 44,410 ล้านล้านบาท โดยพบแร่โพแทชสูงถึง 10,000 ล้านตัน มูลค่าแร่ประมาณ 161 ล้านล้านบาท

เมื่อ 14 มิ.ย. 2567 เดอะ สตาร์ สื่อภาษาอังกฤษในมาเลเซียรายงานข่าวที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ว่า กรมทรัพยากรธรณีของไทย จัดแถลงข่าว ‘เปิดกรุสมบัติทรัพยากรแร่ของประเทศไทย’ โดยนายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะโฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์ในด้านทรัพยากรแร่

ข้อมูลของกรมทรัพยากรธรณีที่สำรวจข้อมูล พบว่า ประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรแร่ โดยพบมากถึง 40 ชนิด ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 60 ล้านไร่ 44,410 ล้านล้านบาท ซึ่งแร่เหล่านี้จะเป็นแหล่งสำรองเพื่อความมั่นคงทางวัตถุดิบของประเทศ

ในขณะที่ ปริมาณทรัพยากรแร่เป็นตัวเลขเบื้องต้นที่พิจารณาเฉพาะข้อมูลธรณีวิทยาเท่านั้น เพื่อให้รู้ว่าประเทศไทยมีปริมาณแร่เท่าไร หากภาคเอกชนลงทุน สำรวจรายละเอียดในพื้นที่ศักยภาพแร่ที่กรมทรัพยากรธรณีกำหนด จะได้ตัวเลขของปริมาณแร่สำรอง ซึ่งนำไปใช้ในการวางแผนการผลิตแร่ต่อไป

ขณะที่ นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ยังกล่าวว่า  หินอุตสาหกรรมที่นำมาใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ แร่เพื่อการเกษตร เช่น แร่โพแทชสำหรับเป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการผลิตปุ๋ย

...

แร่โดโลไมต์และเพอร์ไลต์สำหรับปรับสภาพดิน ดินมาร์ลสำหรับแก้ปัญหาดินเค็ม หรือแม้กระทั่งแร่ที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตสังคมคาร์บอนต่ำ เช่น ธาตุหายาก ลิเทียม ควอตซ์ เพื่อใช้ในการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ เช่น กังหันลม แผงเซลล์แสงอาทิตย์ ยานพาหนะไฟฟ้า และแบตเตอรี่กักเก็บ

จากผลการสำรวจของกรมทรัพยากรธรณีพบแหล่งศักยภาพโพแทช ที่น่าสนใจ 10 แหล่ง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีปริมาณทรัพยากรแร่โพแทชอย่างน้อย 10,000 ล้านตัน มูลค่าแร่ประมาณ 161 ล้านล้านบาท พบแหล่งศักยภาพธาตุหายาก 30 แหล่ง เนื้อที่ประมาณ 10 ล้านไร่ ใน 9 จังหวัดมีปริมาณทรัพยากรธาตุหายาก รวมประมาณ 7 ล้านตันโลหะ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4.40 ล้านล้านบาท หากมีการส่งเสริม สนับสนุน และผลักดันให้เกิดการแปรรูปวัตถุดิบแร่ หรือการผลิตแบตเตอรี่โซเดียมไอออนจากเกลือหินซึ่งเป็นแร่รองที่ได้จากการทำเหมืองแร่โพแทชที่สามารถนำมาต่อยอดโรงงานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้

ที่มา : Thestar