รัฐธรรมนูญอินเดีย มาตรา 79 พูดถึงการจัดตั้งรัฐสภาว่า ในรัฐสภาแห่งชาติประกอบไปด้วยประธานาธิบดีและสภาทั้ง 2 แห่ง คือวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 80 พูดถึงส่วนประกอบของวุฒิสภาหรือราชสภา มาตรา 81 พูดถึงส่วนประกอบของสภาผู้แทนราษฎร หรือโลกสภา
สภาผู้แทนราษฎรอินเดียตามมาตรา 81 ประกอบด้วยสมาชิกไม่เกิน 530 คน เลือกโดยตรงโดยประชาชนในเขตเลือกตั้งรัฐต่างๆ และสมาชิกอีก ‘ไม่เกิน’ 20 คนเป็นผู้แทนดินแดนสหพันธรัฐ เลือกโดยระเบียบที่รัฐสภากำหนดไว้ตามกฎหมาย วาระของสภาผู้แทนราษฎรคือ 5 ปี
การเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดของอินเดียหรือ 2024 Indian general election ซึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งที่ 18 จัดขึ้นระหว่าง 19 เมษายน-1 มิถุนายน 2024 ครั้งนี้เลือก สส.ทั้งหมด 543 คน การเลือกตั้งอินเดียเป็นมหกรรมที่ใหญ่โตมโหฬารมาก ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งมีมากกว่า 968 ล้านคน จากประชากร 1.4 พันล้านคน
การเลือกตั้งครั้งล่าสุดมีคนมาลงทะเบียน 968,821,926 คน มีการแข่งขันกันหนักระหว่าง 2 พรรคคือ พรรคภารติยะชนตาหรือ BJP ที่ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ.1980 และพรรคคองเกรสแห่งชาติอินเดียหรือ INC ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ.1885 (เมื่อ 138 ปีก่อน)
การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ค.ศ.2019 พรรคบีเจพีได้ สส.มากถึง 303 คน พรรคคองเกรสได้เพียง 52 คน หัวหน้าพรรคบีเจพีคือนายนเรนทรา โมดี จึงได้เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนการเลือกตั้ง ค.ศ.2024 พรรคบีเจพีได้ สส. 240 คน (ลดลง 63 คน) ส่วนพรรคคองเกรสได้ สส. 99 คน (เพิ่มขึ้น 47 คน)
ถึงแม้บีเจพีจะได้ สส.ลดลง แต่เมื่อบวกกับพรรคพันธมิตรอื่นแล้ว ฝ่ายของนายโมดียังมีจำนวน สส.มากถึง 293 คน ส่วนคองเกรสกับพันธมิตรมี สส. 235 คน แน่นอนครับว่ารัฐบาลชุดใหม่ของอินเดียยังคงมีนายกรัฐมนตรีชื่อนเรนทรา โมดี เหมือนเดิม โมดีเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 14 ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ 26 พฤษภาคม 2014 ถึงเวลานี้ก็เป็นผู้นำแห่งสาธารณรัฐอินเดียมาแล้ว 10 ปี
...
ตามความเห็นของคนที่สนใจอินเดียอย่างเรา ในช่วงทศวรรษที่โมดีเป็นนายกรัฐมนตรี อินเดียเป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าขึ้นมาก ชื่อเสียงของอินเดียเมื่อก่อนเป็นประเทศที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก แต่ปัจจุบันทุกวันนี้ อินเดียเป็นประเทศที่ยืนอยู่แถวหน้าของโลก เป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพที่จะเป็นมหาอำนาจได้ในอนาคต
การที่บีเจพีจะต้องไปพึ่งพาเสียงจากพรรคเล็กอีกอย่างน้อย 3 พรรคเพื่อให้ได้จำนวน สส.เพียงพอในการเป็นรัฐบาล ทำให้หลายคนกังวลว่าเสถียรภาพของรัฐบาลที่นำโดยโมดีสมัยที่ 3 อาจจะมีปัญหา ทำให้ช่วงหลังจากรู้ผลเลือกตั้งตลาดหุ้นของอินเดียดิ่งลง
โมดีต้องออกมาพูดจาปราศรัยกับประชาชนว่าในการเป็นนายกฯของตัวเองในสมัยที่ 3 รัฐบาลจะทำงานหนักขึ้น และจะตัดสินใจในเรื่องสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ พลังงานหมุนเวียน กลาโหม และภาคเกษตร
หลายคนทำนายผิดว่าพรรคบีเจพีจะชนะเลือกตั้งใน ค.ศ.2024 อย่างถล่มทลาย ที่ทำนายอย่างนั้น เพราะโมดีเป็นผู้นำที่ทำให้อินเดียเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ขยายตัวร้อยละ 6–7 ต่อปี หลังวิกฤติโควิด-19 เศรษฐกิจอินเดียขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 8.2 จีนที่ว่าเจ๋งๆ ยังโตแค่ร้อยละ 5.7 ทุกวันนี้อินเดียมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก มีผลการวิเคราะห์ออกมาว่าใน ค.ศ.2027 อินเดียจะเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่โตมโหฬารบานตะไทเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐฯและจีน
ประเทศก็เหมือนคน มีรุ่งเรืองและตกต่ำ ในอดีตบางครอบครัวยากจนข้นแค้น แต่เมื่อเร่งพัฒนาก็ขยับสถานะเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยได้ ก่อนหน้าที่โมดีจะขึ้นมา อินเดียมีสนามบินไม่ถึง 100 แห่ง แต่ปัจจุบันมีมากถึง 149 แห่ง แต่ละปีอินเดียสร้างถนนเพิ่มถึง 1 หมื่นกิโลเมตร เพิ่มกำลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ 15 กิกะวัตต์ต่อปี
ผู้อ่านท่านผู้เจริญ เราอาจจะไม่สนใจประเทศบูร์กินาฟาโซ โตโก บุรุนดี รวันดา เพราะไม่มีผลกระทบต่อโลก แต่อินเดียไม่ใช่ การกระดิกพลิกตัวของอินเดียกระทบต่อความเจริญหรือความตกต่ำของโลก เราจำเป็นต้องรู้เรื่องอินเดีย เราจำเป็นต้องเชื่อมกับอินเดีย.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com
คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม