ทางการชิลีจับกุมนักดับเพลิงอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ในข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดไฟป่าครั้งใหญ่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 130 คน

อัยการชิลีตั้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการกับนักดับเพลิงอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบจุดไฟป่าที่ลุกลามอย่างรุนแรงในพื้นที่ตอนกลางของประเทศ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 137 ศพ

อัยการระบุว่า จนถึงขณะนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องคือนายฟรานซิสโก อิกนาซิโอ มอนดากา อาสาสมัครดับเพลิง และนายฟรานซิสโก ปินโต เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป่าไม้แห่งชาติของชิลี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงเกษตร ที่รับผิดชอบในการป้องกันไฟป่า

สำนักงานอัยการเมืองบัลปาไรโซ เมืองชายฝั่งใกล้กับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากเหตุเพลิงไหม้ ระบุเมื่อวันเสาร์ (25 พ.ค.) ว่า ผู้ต้องสงสัยทั้งสองถูกควบคุมตัวก่อนการพิจารณาคดี เจ้าหน้าที่กล่าวว่านายมอนดากา เป็นผู้ก่อเหตุ โดยอ้างว่านายปินโตเป็นผู้บงการ

อัยการกล่าวว่า พวกเขาเข้าถึงหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่านายมอนดากา และนายปินโต กระทำการโดยเจตนา และพวกเขามีความรู้เกี่ยวกับสภาพอากาศที่เหมาะสมที่สุดในการจุดไฟ "เรามีเอกสารที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาตกลงที่จะร่วมกันก่อเหตุเมื่อสภาพอากาศมีความเหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่าไฟจะลุกลาม" เจ้าหน้าที่กล่าวว่าในสถานที่ทั้ง 4 แห่งที่เกิดเพลิงไหม้ครั้งแรก เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ยังพบอุปกรณ์ที่ทำจากบุหรี่และไม้ขีดไฟที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้

โพสต์ในบัญชี X ของสำนักงานอัยการบัลปาไรโซ ระบุว่า ผู้พิพากษาให้เวลาเจ้าหน้าที่ 6 เดือนในการสอบสวนให้เสร็จสิ้น โดยระบุว่า จะต้องดำเนินการเพิ่มเติมกับคดีของเหยื่อที่ยังคงสูญหายและโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องสงสัยแต่ละราย ด้านอัยการ ออสวัลโด ออสซานดอน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สามารถเชื่อมโยงนายมอนดากากับเหตุเพลิงไหม้ 6 ครั้งก่อนหน้านี้ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว 

...

ไฟป่าดังกล่าวถือเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นในชิลี นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อปี 2553 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 ศพ ประชาชนมากกว่า 16,000 คน ได้รับผลกระทบจากไฟป่า ซึ่งทำลายบ้านเรือนและสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อภูมิภาคซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองวินา เดล มาร์ ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยม

ชิลี อาร์เจนตินา และพื้นที่ส่วนอื่นๆ ทางใต้ของทวีปอเมริกาใต้ เผชิญกับคลื่นความร้อนที่รุนแรง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าจะเกิดบ่อยครั้งขึ้นในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ.

ที่มา Reuters

ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign