เผย สิงคโปร์แอร์ไลน์ ตกหลุมอากาศ ยังมีผู้บาดเจ็บอยู่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ กว่า 40 ราย ในจำนวนนี้เกินครึ่งยังอยู่ห้องไอซียู และอาการโคม่า 6 ราย ส่วนใหญ่บาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง
เมื่อ 24 พ.ค. 2567 สำนักข่าวต่างประเทศยังคงติดตามความคืบหน้าเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777-300 ของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ321 เส้นทางลอนดอน-สิงคโปร์ ตกหลุมอากาศอย่างรุนแรง ทำให้เครื่องบินดิ่งวูบจากระดับความสูง 37,000 ฟุต ลงมาอยู่ที่ 31,000 ฟุต ในเวลา 4-6 นาที ขณะบินอยู่เหนือน่านฟ้าประเทศเมียนมา หรือพม่า ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ และบาดเจ็บจำนวนอย่างน้อย 70 รายเมื่อ 21 พ.ค. 2567 นั้น
สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ แจ้งว่า ยังมีผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ อีก 46 ราย และลูกเรือ 2 ราย
...
นายแพทย์อดินันท์ กิตติรัตนไพบูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช ในกรุงเทพฯ แถลงข่าวเมื่อ 23 พ.ค.2567 ว่า ขณะนี้ยังคงมีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ รักษาที่โรงพยาบาลสมิติเวช จำนวน 41 ราย ในจำนวนนี้ยังรักษาอยู่ในห้องไอซียู (ICU) 22 ราย รวมทั้งเด็กวัย 2 ขวบ 1 ราย ขณะที่มีคนไข้ได้รับบาดเจ็บ อาการสาหัส 6 ราย ถึงขั้นเป็นตายเท่ากัน
จากการเปิดเผยของ ผอ.โรงพยาบาลสมิติเวช ยังระบุว่า คนไข้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ยังต้องรักษาในโรงพยาบาล มีทั้งบาดเจ็บที่กะโหลกศีรษะ และสมอง รวมทั้งเจ็บกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ กระดูกสันหลัง โดยมีคนไข้ 17 ราย ต้องได้รับการผ่าตัด ซึ่งในจำนวนนี้ 9 ราย บาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง
สำหรับผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สิงคโปร์แอร์ไลน์ตกหลุมอากาศ ที่ยังรักษาในโรงพยาบาลสมิติเวช ยังรวมถึงชาวอังกฤษ 10 ราย ชาวออสเตรเลีย 9 ราย ชาวมาเลเซีย 7 ราย ชาวฟิลิปปินส์ 4 ราย ซึ่งคนไข้อายุมากที่สุด คือ 83 ปี
ทั้งนี้ เครื่องบินสิงคโปรแอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ321 ได้นำผู้โดยสาร 211 คน และลูกเรือ 18 คนเดินทางจากสนามบินในกรุงลอนดอน และประสบเหตุหลังบินมาได้ 11 ชั่วโมง เหลืออีก 2 ชั่วโมงเท่านั้นจะถึงปลายทาง โดย นายโก๊ะ ชุน ฟง ประธานกรรมการบริหาร หรือ CEO ของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อทุกคนที่ได้รับผลกระทบ ในขณะที่รัฐบาลสิงคโปร์ให้คำมั่นว่าจะสอบสวนจากเหตุการณ์นี้
ที่มา : BBC