เม็กซิโกกำลังเผชิญภัยแล้งกับคลื่นความร้อนรุนแรง ทำให้ลิงเสี่ยงสูญพันธุ์ร้อนตายไปเกือบ 100 ตัวแล้ว ขณะที่มนุษย์ก็เสียชีวิตนับสิบศพ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 21 พ.ค. 2567 ว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ในประเทศเม็กซิโกกำลังเผชิญกับภัยแล้งและคลื่นความร้อนรุนแรง จนส่งผลให้ลิงหอนสีทอง (mantled howler) ซึ่งเป็นสัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ ในพื้นที่ป่าเขตร้อนทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ร้อนจนตกต้นไม้ตายเกือบ 100 ตัวแล้ว ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ที่รัฐทาบาสโก ซึ่งคาดกันว่าอุณหภูมิโดยเฉลี่ยจะทะลุ 45 องศาเซลเซียสในสัปดาห์นี้ มีลิงหอนสีทองตกต้นไม้ตายถึง 85 ตัวแล้ว ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น ขณะที่ทางการยืนยันว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง โดยสำนักงานป้องกันพลเรือนเผยในช่วงสุดสัปดาห์ว่า สาเหตุการตายหลักคือภาวะขาดน้ำ แต่ไม่ยืนยันจำนวนลิงที่ตาย
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานในวันจันทร์ (20 พ.ค.) โดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวในสำนักงานป้องกันพลเรือนรัฐทาบาสโก ว่า เจ้าหน้าที่พบลิงตายเพราะอากาศร้อนใน 3 เขตเทศบาลแล้ว
...
ที่ป่านอกเมืองโคมัลกัลโก ของรัฐทาบาสโก ทีมอาสาสมัครเก็บซากลิงหอนสีทองที่ตายเพราะอากาศร้อนได้จำนวนมาก ก่อนจะวางถังน้ำและผลไม้ไว้ตามจุดต่างๆ หวังลดจำนวนการตายที่อาจเกิดขึ้นอีก
“มันเป็นเพราะว่าความร้อนรุนแรงเหลือเกิน ผมเยือนรัฐต่างๆ มานาน แต่ไม่เคยรู้สึกร้อนขนาดนี้มาก่อน” อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก ซึ่งเป็นชาวรัฐทาบาสโก บอกกับสื่อเมื่อวันจันทร์ หลังถูกถามเรื่องลิงจำนวนมากที่ตายเพราะคลื่นความร้อน
ต่อมาในวันเดียวกัน กระทรวงสิ่งแวดล้อมของเม็กซิโกก็ออกแถลงการณ์ระบุว่า พวกเขากำลังประสานความร่วมมือเพื่อลดจำนวนการตายของลิง ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัย รวมถึง ลมแดด, ขาดน้ำ, ขาดสารอาหาร หรือการฉีดสารเคมีฟาร์มต่างๆ
คลื่นความร้อนยังส่งผลกระทบรุนแรงต่อมนุษย์ด้วย โดยกระทรวงสาธารณสุขของเม็กซิโกเผยว่า นับตั้งแต่ฤดูร้อนของเม็กซิโกเริ่มขึ้นเมื่อ 17 มี.ค. จนถึงวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตด้วยสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับความร้อนแล้วถึง 26 ศพ
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cnn