ผู้โดยสารเครื่องบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เล่านาทีระทึก ตอนเครื่องตกหลุมอากาศอย่างรุนแรงจนมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก และเสียชีวิต 1 ศพ และทำให้ต้องเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดฉุกเฉินที่ประเทศไทย
ผู้โดยสารเที่ยวบิน SQ321 ของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เผชิญหลุมอากาศรุนแรงโดยแทบไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า เมื่อวันอังคารที่ 21 พ.ค. 2567 มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ในขณะที่เครื่องกำลังเดินทางจากกรุงลอนดอนใกล้ถึงจุดหมายที่ท่าอากาศยาน ชางงี ทำให้นักบินต้องตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทาง เครื่องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิของไทย
ซาฟราน อัซเมียร์ นักศึกษาชาวมาเลเซียวัย 28 ปี เล่าช่วงเวลาเกิดเหตุให้สำนักข่าวรอยเตอร์ส ฟังว่า ตอนนั้นเหลือเวลาประมาณ 3 ชั่วโมงจะถึงสิงคโปร์ จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าเครื่องบินโบอิ้ง 777-300R ลำนี้เชิดหน้าขึ้น ก่อนจะเริ่มสั่น เขาจึงเตรียมตัวรับแรงกระแทก และตรวจสอบว่าตัวเองคาดเข็มขัดหรือยัง แต่มีผู้โดยสารหลายคนที่ไม่ได้คาด
“จู่ๆ เครื่องก็ดิ่งวูบอย่างรุนแรง จนทำให้คนที่นั่งอยู่แต่ไม่ได้คาดเข็มขัดถูกดีดขึ้นชนเพดานทันที บางคนหัวกระแทกกับช่องเก็บกระเป๋าโดยสารด้านบนจนบุบ บางคนชนกับส่วนที่เป็นดวงไฟกับพื้นที่เก็บหน้ากากจนแตก” อัซเมียร์กล่าว จากนั้น “ผู้คนก็ตกลงกับพื้น โทรศัพท์ของผมกระเด็นหลุดมือ ไปที่นั่งที่ห่างไป 2 ช่วง รองเท้ากระจัดกระจายไปทั่ว”
...
ตามการเปิดเผยของสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ321 เผชิญหลุมอากาศรุนแรงอย่างกะทันหันขณะบินอยู่เหนือแม่น้ำอิรวดี ที่ความสูง 37,000 ฟุต หลังออกเดินทางจากกรุงลอนดอนได้ 10 ชั่วโมง ก่อนที่นักบินจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แล้วเปลี่ยนเส้นทางไปยังกรุงเทพมหานคร แล้วลงจอดในเวลา 15.45 น.
เหตุการณ์นี้ทำให้ชายสูงวัยชาวสหราชอาณาจักรวัย 73 ปี เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 30 คน หลายรายในจำนวนนี้มีอาการสาหัส ขณะที่ภาพห้องโดยสารซึ่งเผยแพร่บนโลกออนไลน์แสดงให้เห็นความวินาศสันตะโร ถาดอาหารและสิ่งของต่างๆ กระจายเกลื่อนพื้น หน้ากากออกซิเจนห้อยต่องแต่ง และอุปกรณ์บางส่วนภายในห้องโดยสารเสียหาย
ผู้โดยสารอีกคนชื่อว่า แอนดรูว์ เดวีส เผยผ่าน X ว่า สัญญาณเตือนให้คาดเข็มขัดเปิดขึ้นมาก่อนที่เครื่องจะดิ่งไม่นาน “มีคนเจ็บมากมายเหลือเกิน ทั้งหัวแตก, เลือดกำเดาไหล, เลือดออกจากหู” ผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ส่วนลูกเรือพยายามสงบสติและทำทุกอย่างที่พวกเขาทำได้แล้ว และผู้โดยสารที่มีความรู้ทางการแพทย์ก็คอยช่วยเหลือคนอื่นๆ อย่างสุดความสามารถ
“ใครก็ตามที่ได้รับบาดเจ็บ คือคนที่ไม่ได้คาดเข็มขัด” นายเดวีสกล่าว
นายอัซเมียร์ระบุว่า ผู้โดยสารและลูกเรือที่อยู่ในห้องน้ำ คือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมากที่สุด “เราพบคนอยู่บนพื้นและไม่สามารถลุกขึ้นได้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะกับสันหลังเยอะมาก”
ด้าน นายอัลวิน ไล นักวิเคราะห์การบิน บอกกับสำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย ว่า เที่ยวบิน SQ321 น่าจะเผชิญกับหลุมอากาศท่ามกลางอากาศแจ่มใส (clear air turbulence - CAT) ซึ่งเรดาร์สภาพอากาศของเครื่องบินไม่สามารถตรวจจับได้
“ตามปกติแล้ว หลังอากาศจะเกิดจากการเคลื่อนตัวของเมฆ ซึ่งนักบินจะได้รับการแจ้งเตือนบนเรดาร์เพื่อที่พวกเขาจะได้เลี่ยงมัน หรือเตือนลูกเรือกับผู้โดยสารให้คาดเข็มขัดนิรภัย” นายอัลวิน ไล กล่าว “แต่เมื่อดูจากจำนวนผู้บาดเจ็บแล้ว ผมเชื่อว่า SQ321 เผชิญกับ CAT ซึ่งอาจทำให้เครื่องบินถูกเหวี่ยงอย่างรุนแรง”
นายไลเผยด้วยว่า หลุมอากาศเกิดหลังช่วงเวลาอาหารกลางวัน จึงคาดว่า มีผู้โดยสารหลายคนที่กำลังรอคิวเข้าห้องน้ำอยู่ ซึ่งนี่เองที่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บขึ้นได้
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cna