ผู้นำฝรั่งเศสและประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เรียกร้อง สี จิ้งผิง ให้ใช้อิทธิพลช่วยหยุดสงครามรัสเซียยูเครน และขอให้จีนยอมรับกฎการค้าขายเป็นธรรมของโลก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง แห่งประเทศจีน กำลังอยู่ระหว่างเดินทางเยือนยุโรปครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 โดยเขาเดินทางถึงฝรั่งเศสซึ่งเป็นจุดหมายแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และจะอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 2 วันก่อนจะเดินทางไปยังจุดหมายถัดไปที่เซอร์เบียกับฮังการี
เมื่อวันจันทร์ที่ 6 พ.ค. 2567 สี จิ้นผิง เข้าร่วมการประชุมสุดยอดไตรภาคีร่วมกับนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนางเออร์ซูลา วอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป
นายมาครงกล่าวเปิดการประชุมว่า การร่วมมือกับจีนในวิกฤติขนาดใหญ่ ซึ่งรวมถึงเรื่องยูเครน คือสิ่งที่แน่นอนที่สุด พร้อมทั้งเร่งเร้าให้มีการออกกฎที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่ายในการค้าขายระหว่างยุโรปกับจีน “เป็นที่ชัดเจนมากว่า อนาคตของทวีปเราขึ้นอยู่กับความสามารถของเราในการพัฒนาความสัมพันธ์กับจีนอย่างสมดุลต่อไป”
ขณะที่นายสีกล่าวว่า จีนกับ EU ควรเป็นหุ้นส่วนกันต่อไป และดำเนินแผนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ เพื่อสร้างคุณูปการต่อการพัฒนาและความสงบสุขของโลก
ในเรื่องสงครามรัสเซียยูเครน EU แสดงความกังวลมาตลอดว่า แม้จีนจะแสดงตัวเป็นกลางในเรื่องความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน แต่พวกเขากลับคอยให้ความช่วยเหลือทางอ้อมแก่รัสเซีย ซึ่งกำลังใช้เครื่องจักรของจีนในการผลิตอาวุธ
“(จีน) จำเป็นต้องมีความพยายามมากขึ้นในการตัดทอนการส่งสินค้าที่สามารถประยุกต์ใช้ได้ทั้งสองทาง (DUI) ซึ่งอาจถูกนำเข้าสู่สนามรบได้ แก่รัสเซีย ” นางวอน แดร์ เลเยน กล่าวหลังจากทั้งสามหารือกัน และเสริมด้วยว่า เรื่องนี้อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่าง EU กับจีน
...
ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปบอกอีกว่า ทั้งฝรั่งเศสและ EU ต่างหวังให้จีนใช้อิทธิพลของตัวเอง เพื่อยุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน เพราะทั้งยุโรปกับจีนต่างก็ได้รับผลประโยชน์จากความสงบสุขและความมั่นคง
วอน แดร์ เลเยน กล่าวด้วยว่า เธอมั่นใจว่านายสีจะมีบทบาทสำคัญในการลดความตึงเครียดเรื่องคำขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย
ส่วนในด้านการค้า นายมาครงกับนางวอน แดร์ เลเยน ระบุว่า เรื่องการค้าขายคือสิ่งสำคัญลำดับแรกในการหารือครั้งนี้ พร้อมย้ำว่า ยุโรปต้องปกป้องผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของตัวเอง ในความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีน “ยุโรปจะไม่ลังเลที่จะมีการตัดสินใจที่ยากลำบาก เพื่อปกป้องเศรษฐกิจและความมั่นคงของตัวเอง”
วอน แดร์ เลเยน กล่าวอีกว่า การขาดดุลในหลายๆ เรื่องยังคงมีนัยสำคัญ และที่น่ากังวลมากก็คือ การอุดหนุนราคารถไฟฟ้าและเหล็กของรัฐบาลจีน ซึ่งกำลังทำให้สินค้าเหล่านี้ไหลท่วมตลาดยุโรป
ฝ่าย สี จิ้นผิง ก็ยืนยันว่า ข้อกล่าวหาที่ว่าจีนให้เงินสนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ในประเทศจนกำลังการผลิตล้นเกิน (Overcapacity) ทำให้ราคาในตลาดโลกตกต่ำลงนั้น ไม่เป็นความจริง และว่าจีนกับยุโรปควรแก้ปัญหาความแตกต่างทางการค้าผ่านการพูดคุยและปรึกษาหารือ และตกลงกันเรื่องข้อกฎหมายที่แต่ละฝ่ายกังวลจะดีกว่า
ทั้งนี้ ในวันอังคาร นายมาครงจะพานายสีกับภริยา เดินทางไปยังเขาพิเรนีส บ้านเกิดยายของเขา เพื่อพูดคุยกันอย่างเป็นกันเองมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายจันกา ออร์เทล ผู้อำนวยการโครงการเอเชีย ของสภายุโรปด้านความสัมพันธ์ต่างประเทศ (ECFR) องค์กรวิจัยซึ่งมีสำนักงานใน 7 ชาติยุโรป เชื่อว่า ข้อเรียกร้องของมาครงทั้งเรื่องการค้าและยูเครน ไม่น่าจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อพฤติกรรมของจีนหลังจากนี้
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cna