รัฐบาลทหารเมียนมาระงับการขออนุญาตให้ผู้ชายออกไปทำงานนอกประเทศเป็นการชั่วคราว โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา
รัฐบาลเผด็จการทหารของเมียนมาระงับการออกใบอนุญาตให้ผู้ชายไปทำงานในต่างประเทศ ไม่กี่สัปดาห์หลังจากบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหาร ที่ทำให้ชาวเมียนมาจำนวนมากพยายามเดินทางออกนอกประเทศ
กระทรวงแรงงานเมียนมาระบุในแถลงการณ์ที่โพสต์โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ของของรัฐบาล ว่ากระทรวงฯ ได้ระงับการรับใบสมัครจากผู้ชายที่ต้องการไปทำงานในต่างประเทศเป็นการชั่วคราว เพื่อใช้ในการตรวจสอบกระบวนการการออกเดินทางนอกประเทศ และประเด็นอื่นๆ โดยไม่ได้ระบุรายละเอียด
นายนยุน วิน ปลัดกระทรวงแรงงานเมียนมา กล่าวกับสำนักข่าวเรดิโอ ฟรี เอเชีย เมียนมา ว่า คำสั่งห้ามประชากรชายเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นเพียงมาตรการชั่วคราว และจะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปตามความจำเป็น และกล่าวว่าทางการจะอนุญาตให้เฉพาะผู้หญิงที่ขึ้นทะเบียนเป็นแรงงานข้ามชาติ สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้เท่านั้น โดยผู้ชายจะไม่สามารถลงทะเบียนไปทำงานในต่างประเทศได้ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว
นายนยุน วิน กล่าวว่า ผู้ชายที่ลงทะเบียนไปทำงานในต่างประเทศภายในสิ้นเดือนเมษายน จะได้รับการยกเว้นจากคำสั่งดังกล่าว ซึ่งรวมถึงแรงงานจำนวนหนึ่งที่จัดการผ่านหน่วยงานจัดหางานระหว่างประเทศ
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ รัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวว่า จะบังคับใช้กฎหมายที่กำหนดให้ผู้ชายทุกคนเข้ารับราชการทหารเป็นเวลาอย่างน้อยสองปี ส่งผลให้ผู้คนหลายพันเข้าคิวขอวีซ่านอกสถานทูตต่างประเทศในนครย่างกุ้ง และชาวเมียนมาจำนวนมากเดินทางข้ามมายังประเทศไทยเพื่อหลบหนีกฎหมายดังกล่าว
จากการประเมินขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ในปี 2563 มีชาวเมียนมามากกว่า 4 ล้านคนไปทำงานในต่างประเทศ โดยอ้างอิงตัวเลขของรัฐบาลในขณะนั้น นักวิเคราะห์กล่าวว่า มีชาวเมียนมาจำนวนมากทำงานในต่างประเทศนอกเหนือจากข้อมูลอย่างเป็นทางการ
...
รัฐบาลทหารเมียนมาเคยออกกฎหมายการรับราชการทหาร ในปี 2553 แต่ไม่เคยมีผลบังคับใช้ โดยอนุญาตให้กองทัพออกหมายเรียกผู้ชายอายุ 18-35 ปี และผู้หญิงอายุ 18-27 ปี ทุกคนเข้ารับราชการอย่างน้อย 2 ปี กฎหมายดังกล่าวยังมีข้อกำหนดว่า ในระหว่างสถานการณ์ฉุกเฉิน สามารถขยายระยะเวลาการรับราชการได้สูงสุด 5 ปี และผู้ที่เพิกเฉยต่อหมายเรียกให้รับราชการอาจถูกจำคุก 5 ปี
รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศภาวะฉุกเฉินหลังจากเข้ายึดอำนาจในปี 2564 โดยกองทัพเพิ่งขยายเวลาออกไปอีก 6 เดือน และจากรายงานของบัญชีเทเลแกรมสนับสนุนกองทัพ ทหารเกณฑ์ชุดแรกจำนวนหลายพันคนได้เริ่มการฝึกอบรมภายใต้กฎหมายดังกล่าวแล้ว
โฆษกรัฐบาลทหารกล่าวว่า กฎหมายนี้มีความจำเป็นเนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมียนมา ในขณะที่ต้องต่อสู้กับทั้งกองกำลังป้องกันประชาชน และกลุ่มติดอาวุธของชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์ และกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้คนประมาณ 13 ล้านคนเข้าเกณฑ์ที่จะถูกเรียกตัว แม้ว่ากองทัพจะมีความสามารถในการฝึกได้เพียง 50,000 คนต่อปีก็ตาม
กลุ่มสังเกตการณ์ในเมียนมาระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 4,900 รายในการปราบปรามผู้เห็นต่าง นับตั้งแต่รัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และอีกมากกว่า 26,000 รายถูกจับกุม.
ที่มา CNA
ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign